‘ดีอีเอส’ ลงพื้นที่อีอีซีตรวจ Thailand Digital Valley หารือสตาร์ทอัพ เล็งพัฒนาความร่วมมือปั้นดิจ้ทัล

รัฐมนตรีดีอีเอส นำทีมผู้บริหารกระทรวงติดตามความคืบหน้าการพัฒนา Thailand digital Valley ระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2563 ในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล และเยี่ยมชมอาคาร depa Digital One Stop Service หลังแรกในพื้นที่ที่สร้างแล้วเสร็จ และมีการจองสิทธิ์เช่าโดยเอกชนเต็มพื้นที่แล้ว ก่อนร่วมพูดคุยกับเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกันต่อไป

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า อาคาร depa Digital One Stop Service ถือเป็นอาคารหลังแรกในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลที่สร้างแล้วเสร็จ และได้รับการจองสิทธิ์เช่าโดยเอกชนเต็มพื้นที่แล้ว ซึ่งจะเป็นพื้นที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักลงทุน อีกทั้งเป็นพื้นที่ทำงานสำหรับดิจิทัลสตาร์ทอัพในพื้นที่ รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีดิจิทัล

พร้อมกันนี้ ยังเป็นศูนย์ประสานงานของ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สาขาภาคตะวันออก หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้เข้าใช้งานได้ในช่วงปลายปี 2563

พร้อมกันนี้ คณะยังได้ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคาร Digital Startup Knowledge Exchange Centre อาคารหลังที่สองใน Thailand Digital Valley ที่ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จราว 50% และมีบริษัทเอกชน รวมถึงดิจิทัลสตาร์ทอัพเข้าจองสิทธิ์เช่าพื้นที่แล้วกว่า 25%

นอกจากอาคาร depa Digital One Stop Service และ Digital Startup Knowledge Exchange Centre ยังมีอาคาร Digital Innovation Centre ที่อยู่ระหว่างเตรียมประกาศผู้รับจ้าง และอาคาร Digital Edutainment Complex รวมถึง Digital Go Global Centre ซึ่งคาดว่าทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปี 2566

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ร่วมพูดคุยกับเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ จำนวน 20 รายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และประชาสัมพันธ์ให้รับทราบเกี่ยวกับอาคารต่าง ๆ ภายในพื้นที่ Thailand Digital Valley รวมถึงแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในพื้นที่โดยรอบ และการพัฒนาคนดิจิทัล รองรับอีอีซี ก่อนรับฟังข้อเสนอแนะ และข้อเรียกร้องจากดิจิทัลสตาร์ทอัพที่มีต่อภาครัฐ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ตลอดจนความเป็นไปได้ในการทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป