“ไลน์แมนวงใน” ขอเวลา 3 ปี ขึ้นเบอร์ 1 สมรภูมิฟู้ดดีลิเวอรี่

“ไลน์แมนวงใน” เดินเกมเขย่าตลาดฟู้ดดีลิเวอรี่ 3.5 หมื่นล้านบาท ลุยเพิ่มพื้นที่บริการเป็น 20 จังหวัดใน 1 ปี เปิดคลาวด์คิตเช่นเพิ่ม ดัน POS Merchant ลงร้านอาหาร ตั้งเป้าขึ้นเบอร์ 1 ใน 3 ปี

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลน์แมน วงใน จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนดีมานด์ และข้อมูลร้านอาหาร “ไลน์แมน วงใน” กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดฟู้ดดีลิเวอรี่มีมูลค่าประมาณ 35,000 ล้านบาท มีสัดส่วน 5% ของตลาดรวมธุรกิจร้านอาหารในไทยที่มีมูลค่า 7 แสนล้านบาท เชื่อว่าสัดส่วนฟู้ดดีลิเวอรี่จะเพิ่มเป็น 20-30% ในอนาคตจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะช่วงโควิด-19 เป็นตัวเร่งสำคัญ ขณะที่การแข่งขันค่อนข้างสูงจากรายใหญ่แข่งโปรโมชั่น “ส่งฟรี” และขยายพื้นที่การให้บริการ

การควบรวมระหว่างไลน์แมนกับวงในทำให้มีจุดแข็งด้านร้านอาหารที่หลากหลาย มีพาร์ตเนอร์กว่า 2 แสนร้านค้า ในอนาคตจะขยายให้ครอบคลุม 4-5 แสนร้านค้าทั่วประเทศ ซึ่งการควบรวมเพิ่งเสร็จต้น ก.ย. ตั้งบริษัทใหม่ “ไลน์แมน วงใน” มีไลน์ ประเทศไทย ถือหุ้นกว่า 40% ที่เหลือเป็น บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด และอื่น ๆ และทำให้ประสิทธิภาพในการขยายธุรกิจเร็วขึ้นทั้งสองฝ่าย

ทิศทางธุรกิจหลังการควบรวมมีผล 2 ก.ย.เป็นต้นไป มีเป้าหมายใหญ่ คือการมุ่งสู่การเป็นฟู้ดแพลตฟอร์มด้านอาหารเบอร์ 1 ในประเทศไทย ด้วยการสร้างอีโคซิสเต็มด้านอาหารที่สมบูรณ์ที่สุด หลังได้รับเงินลงทุนมูลค่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาทจาก BRV Capital Management แบ่งแผนธุรกิจเป็นแผนระยะสั้นใน 1 ปี จากนี้จะโฟกัสการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะ “ฟู้ดดีลิเวอรี่” ทำให้ผู้ใช้ได้สั่งอาหารจากร้านที่หลากหลายด้วยค่าส่งฟรีระยะทาง 3 กม. ขยายพื้นที่บริการจาก 13 จังหวัด เป็น 20 จังหวัด ในสิ้นปีนี้ และจะเปิดคลาวด์คิตเช่นเพิ่มที่ปทุมวัน ต.ค. หลังเปิดที่ปุณณวิถีไปแล้ว

ฟากพันธมิตรร้านอาหารจะมีฟีเจอร์เช่น การเชื่อมต่อกับ LINE Official Account, Mini App, Smart Menu POS และ Self Promotion ให้ร้านมีเครื่องมือใหม่ ๆ ในการทำตลาด ส่วนแผนระยะกลาง 3 ปีต้องเป็นแพลตฟอร์มด้านอาหารอันดับ 1 ของไทย สร้างอีโคซิสเต็มครอบคลุมตั้งแต่บริการสำหรับความต้องการของผู้บริโภคทุกรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกร้านที่ตรงความต้องการ สั่งดีลิเวอรี่ไปส่งถึงบ้าน สั่งอาหารแล้วไปรับเองที่ร้าน หรือจองโต๊ะล่วงหน้า โดยในฝั่งร้านอาหารมีบริการทั้งสื่อประชาสัมพันธ์ ช่องทางการขายใหม่ และซอฟต์แวร์จัดการร้านอาหาร ที่เชื่อมแพลตฟอร์ม LINE MAN และ Wongnai เข้าด้วยกัน

“สัดส่วนรายได้หลัก ๆ มาจาก 3 ส่วน คือ ฟู้ดดีลิเวอรี่ โฆษณา และเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ให้ร้านค้า เช่น POS Merchant ซึ่งผลจากความร่วมมือจะทำให้บริษัทลด ขาดทุนและกลับมาเติบโตได้เร็วขึ้น”