NS8 มือปราบโกง แต่โกงเอง !

คอลัมน์ Tech Times
มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

อดัม โรกัส ซีอีโอหนุ่มใหญ่วัย 43 ผู้ก่อตั้ง NS8 ฟินเทค สตาร์ตอัพที่ฮอตที่สุดในลาสเวกัสถูกเอฟบีไอรวบตัวข้อหาฉ้อโกงเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ข่าวนี้เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจพนักงานกว่า 200 ชีวิตที่ถูกเลิกจ้างฉับพลัน รวมทั้งสะเทือนถึงนักลงทุนรายใหญ่หลายรายที่เพิ่งลงขัน 123 ล้านเหรียญในสตาร์ตอัพรายนี้ 1 เดือนก่อนที่จะถูกเผยออกมา

เรื่องนี้กลายเป็นตลกร้ายประจำวงการฟินเทค ก็คือ NS8 เป็นสตาร์ตอัพที่เติบโตและโด่งดังจากการให้บริการ “ป้องกันการฉ้อโกง” ที่เกิดขึ้นจากธุรกรรมทางการเงินให้แก่ร้านค้าออนไลน์ โดยอ้างว่าซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้เทคโนโลยีไฮเทคเพื่อวิเคราะห์ ลดความเสี่ยงที่เกิดจากการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำเร็จของ NS8 มาจากตัวอดัมที่คนรอบข้างให้คำจำกัดความว่าเป็นคนเก่งที่มีเสน่ห์น่าคบหา ด้วยบุคลิกที่เป็นมิตร น่าเชื่อถือ ทำให้เขาสามารถกล่อมนักลงทุนให้สนใจไม่ยาก

การที่อดัมสามารถจีบยักษ์ใหญ่อย่าง Shopify และ Magento มาเป็นพันธมิตรคอยแนะนำบริการของเขาให้แก่คู่ค้าก็ยิ่งเป็นการติดปีกให้ NS8 กลายเป็นสตาร์ตอัพที่ร้อนแรงที่สุดในลาสเวกัสทั้ง ๆ ที่เพิ่งถือกำเนิดได้แค่ 4 ปี

ความฮอตของ NS8 พิสูจน์ได้จากการที่เป็นฟินเทคหน้าใหม่ไม่กี่รายที่สามารถระดมทุนหลักร้อยล้านเหรียญได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักจากการระบาดโควิด

โดยวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา NS8 ประกาศว่าระดมทุนได้ 123 ล้านเหรียญจากนักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกอย่าง Lightspeed Venture Partners, Sorenson Capital Partners และ AXA Venture Partners

อดัมให้สัมภาษณ์ Crunchbase ว่า โควิดทำให้อีคอมเมิร์ซโตอย่างก้าวกระโดดอันเป็นผลให้บริการป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ของ NS8

เขาบอกอีกด้วยว่าก่อนหน้าที่จะมีโควิดบริษัทของเขาก็เติบโตอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้นในปีที่แล้วถึง 200% โดยมีพนักงานเพิ่มขึ้นจาก 50 คนในปี 2019 เป็น 225 คนในปีนี้ มีสำนักงานใหญ่ที่ลาสเวกัสและออฟฟิศย่อยทั้งในไมอามี แคลิฟอร์เนีย อัมสเตอร์ดัม สิงคโปร์ และเมลเบิร์น ทั้งนี้ เขาตั้งเป้าจะนำเงินอัดฉีดก้อนใหม่มาจ้างพนักงานเพิ่ม พร้อมเปิดออฟฟิศอีกแห่งในซานฟรานซิสโก

แต่ความฝันก็ถูกดับลงหลังโดนจับและถูกฟ้องหลายข้อหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงและหลอกลวงด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งอาจทำให้ต้องติดคุกถึง 20 ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐตามดมกลิ่นเรื่องนี้ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ปี 2019 โดยพบว่าในเดือนเมษายน อดัมตกแต่งตัวเลขในบัญชีรายได้ของบริษัทเพื่อให้นักลงทุนเชื่อว่า บริษัทมีเงินกว่า 62 ล้านเหรียญทั้ง ๆ ที่มีแค่ 28,000 เหรียญ การโกหกครั้งนั้นทำให้เขาสามารถฟันเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไป 17 ล้านเหรียญจากการขายหุ้นระดมทุนได้กว่า 73 ล้านเหรียญ

ที่อดัมสามารถตกแต่งตัวเลขได้ง่าย เป็นเพราะเขาเป็นเจ้าของบัญชีรายได้ของบริษัทเพียงผู้เดียว ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า อดัมเริ่มตกแต่งตัวเลขในบัญชี (ของ Bank of America) ตั้งแต่ต้นปี 2018 ในเดือนกันยายน ปี 2019 ตอนที่บริษัทระดมทุนได้ 50 ล้านเหรียญนั้น เขาโชว์ตัวเลขในบัญชีว่ามีเงิน 23.7 ล้านเหรียญ ทั้ง ๆ ที่จริงมีอยู่ 5,636 เหรียญ

ความจริงอดัมและผู้บริหารอีก 2 คน รู้ว่ากำลังเป็นที่เพ่งเล็ง เพราะได้รับหมายเรียกไปให้ปากคำถึง 2 ครั้ง คือ ในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว และมี.ค.ปีนี้ แต่อดัมก็ยังเดินหน้าตกแต่งตัวเลขในบัญชีต่อไปจนสามารถระดมทุนก้อนโต ล่าสุดเดือน มิ.ย. ตัวเขาได้เงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ไปอีก 17.5 ล้านเหรียญ

ระหว่างนั้นผู้บริหารรายอื่นเริ่มทนไม่ไหว สุดท้ายต้องกดดันให้อดัมมาเจอกันที่ Bank of America ที่ลาสเวกัส เพื่อเปิดบัญชีตัวจริง โดยนัดเจอกันวันที่ 1 กันยายน แต่ไม่กี่นาทีก่อนถึงเวลานัด ผู้บริหารกลับได้อีเมล์จากอดัมว่าขอลาออกจากตำแหน่ง ตอนนั้นอดัมให้สัมภาษณ์ Forbes ว่า ทนแรงกดดันจากนักลงทุนที่รบเร้าจะซื้อหุ้นในบริษัทเพิ่มต่อไปไม่ไหว เลยตัดสินใจลาออก แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็โดน FBI รวบกลางเมืองด้วยข้อหาฉกรรจ์หลายข้อหา

ถึงการสืบสวนยังไม่ขยายผลไปถึงตัวนักลงทุน แต่เริ่มมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้อย่างไรที่นักลงทุนรายใหญ่ระดับโลกจะถูกกลโกงของอดัมตบตาได้ง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าจะอัดฉีดเม็ดเงินให้ NS8 รอบล่าสุดก็มีการจ้างบริษัทบัญชีอย่าง EY ให้มาช่วยตรวจสอบการเงินและทำ due diligence ให้

เมื่อถูกถาม Lightspeed ไม่ยอมบอกว่ารู้เรื่องที่ NS8 ถูกทางการตรวจสอบก่อนที่จะเปิดระดมทุนรอบล่าสุดหรือไม่ โดยตอบแต่เพียงว่าบริษัทถูกหลอกลวงในช่วงทำการตรวจทานทรัพย์สินและต้องสูญเงินหลายล้านเหรียญ

จนกว่าการสอบสวนจะสิ้นสุด เราคงได้แต่เดาว่าการต้มตุ๋นครั้งนี้เป็นฝีมือของคนคนเดียวหรือทำเป็นขบวนการ แต่ที่แน่ ๆ คือสตาร์ตอัพดาวรุ่งถูกสอยร่วงลงมาอีกรายแล้ว