รถยนต์ไฟฟ้ามาแรง จดทะเบียนพุ่ง “เดลต้า” เร่งพัฒนาชาร์จเร็ว

รถยนต์ไฟฟ้าบูม
ภาพจาก andreas160578 จาก Pixabay

รถยนต์ไฟฟ้ามาแรง ยอดจดทะเบียนพุ่ง “เดลต้า” เร่งพัฒนานวัตกรรม ชาร์จเร็ว รับดีมานด์

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดรถไฟฟ้า (EV )ในไทยมีประมาณ 1.6 แสนคัน ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (ม.ค-มิ.ย 63) มียอดจดทะเบียนกับกรมการขนส่งไปแล้วถึง 3,076 คัน ซึ่งสูงกว่ายอดจดทะเบียนทั้งปี 2562 ที่มีอยู่ 1,500 คัน

โดยผู้บริโภคส่วนหนึ่งก็ตัดสินใจหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เพราะมีให้เลือกหลายระดับราคาตามกำลังซื้อ เฉลี่ยตั้งแต่ 500,000- 7,000,000 บาท อีกทั้งนวัตกรรมชาร์จไว และมีสถานีชาร์จเพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็มีผู้บริโภคอีกกลุ่มใหญ่ ที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพราะกังวลเรื่องอายุการใช้งาน ราคาประกันที่ยังสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน อีกทั้งสถานีชาร์จที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งขณะนี้สถานีชาร์จในไทยมีทั้งหมด 560 แห่งทั่วประเทศ มีหัวจ่ายไฟฟ้า 1,800 หัวจ่าย

อย่างไรก็ตาม สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าก็ได้จับมือกับทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเร่งพัฒนาระบบการชาร์จไฟฟ้าข้ามเครือข่าย สามารถชาร์จไฟฟ้าผ่านระบบเน็ตเวิร์กจากที่ไหนก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สถานีชาร์จ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น

สอดรับกับ นายเลิศชาย แก้ววิเชียร ผู้ช่วยผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า หน้าที่สำคัญของการไฟฟ้า คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบชาร์จ เพื่อให้รองรับการใช้งานจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเร่งพัฒนาสถานีชาร์จและระบบชาร์จจากพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อสนองนโยบายรัฐที่ต้องการให้ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ หันมาใช้พลังงานสะอาดกันมากขึ้น

เช่นเดียวกันบริษัทพัฒนาด้านพลังงาน ก็เดินหน้าพัฒนาระบบชาร์จรุ่นใหม่ เพื่อปิดจุดอ่อนที่เกิดขึ้น

โดยนายกิตติศักดิ์ เงินงอกงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน บริษัท เดลต้า อิเล็กโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดลต้าได้พัฒนาชาร์จเจอร์รุ่นใหม่ให้เป็นระบบ ‘Smart Charge’ เพิ่มกำลังไฟฟ้าเป็น 100 และ 150 กิโลวัตต์ ทำให้สามารถชาร์จรถไฟฟ้า EV ได้มากสุด 4 คันต่อหนึ่งชาร์จเจอร์ ที่สำคัญคือ สามารถชาร์จได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ และทำงานร่วมกับอุปกรณ์ IOT รวมไปถึงโซลาร์เซลได้ เพื่อทำให้การใช้รถไฟฟ้า EV มาจากพลังงานที่สะอาด ซึ่งคาดว่าจะออกสู่ตลาดภายในปี 2564