ไอซีที

วิถีใหม่บูมตลาดพรินเตอร์ ค่ายยักษ์พักรบ…โปรโมตหมึกแท้

อานิสงส์ “โควิด-19” ดันดีมานด์ “เครื่องพิมพ์-หมึกพิมพ์” โตไม่หยุด “บราเดอร์ฯ-แคนนอน” ระบุวิถีนิวนอร์มอล ปลุกกระแส “เวิร์กฟรอมโฮม-ค้าขายออนไลน์บูม” เพิ่มโอกาสธุรกิจถึงขั้นผลิตสินค้าไม่พอขาย เดินหน้าบุกตลาดต่อเนื่อง ยอมพักรบชั่วคราวจัดแคมเปญ “คนใช้หมึกแท้เท่านั้นที่รู้” หวังสร้างการรับรู้ให้ผู้ประกอบการใช้น้ำหมึกแท้กระตุ้นตลาดระยะยาว

นับเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลดีจาก “โควิด-19” สำหรับธุรกิจเครื่องพิมพ์หรือพรินเตอร์ รวมไปถึงสินค้าที่ต้องใช้คู่กันอย่าง “หมึกพิมพ์” ด้วย

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดพรินเตอร์เป็นตลาดที่ใหญ่มาก ปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 1.1 ล้านเครื่อง และในปีนี้ยิ่งคึกคักขึ้นไปอีกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นจากกระแสเวิร์กฟรอมโฮม

และการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ที่เติบโตขึ้น ทำให้การใช้กระดาษที่เคยมีแนวโน้มลดลงเพิ่มขึ้น จากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เพิ่มขึ้นในช่วงโควิด ทำให้จำเป็นต้องซื้อเครื่องพิมพ์และหมึกพิมพ์ไปใช้ในสำนักงาน ส่งผลให้การพิมพ์ใบเสร็จและเอกสารต่าง ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นด้วย ทำให้ยอดขายของบราเดอร์ฯใน 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 63) เติบโตขึ้น 60% และส่วนใหญ่มาจากออนไลน์

“ความต้องการของสินค้าที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับจำนวนสินค้าที่มี เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ในบางประเทศทำให้สินค้าขาดตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค คาดว่าต้นปี 2564 จะเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ”

สำหรับรายได้ของบราเดอร์ฯกว่า 85% มาจากกลุ่มพรินเตอร์ แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร 20% และลูกค้าทั่วไป 80% ซึ่งรายได้ของกลุ่มพรินเตอร์มาจากการขายเครื่องกว่า 50% ที่เหลือเป็นรายได้จำหน่ายผงหมึกและน้ำหมึก ซึ่งถ้าโฟกัสเฉพาะน้ำหมึกจะพบว่าความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ทำให้เริ่มมีหมึกปลอมหรือเทียบเท่าเกรดพรีเมี่ยมเข้ามาขายในตลาด ซึ่งกระทบต่อยอดขายของบริษัทต่าง ๆ ที่อยู่ในธุรกิจนี้

ข้อมูลจากศูนย์บริการบราเดอร์ฯพบว่า ปัจจุบันผู้บริโภคใช้งานหมึกปลอมเพิ่มขึ้น แบ่งเป็นเลเซอร์พรินเตอร์ใช้หมึกปลอมกว่า 30% ส่วนอิงก์เจ็ตใช้ 40% ซึ่งข้อเสียของการใช้หมึกปลอมคือ คุณภาพงานพิมพ์อาจไม่ได้ตามที่คาดหวังสีไม่ชัดตัวอักษรไม่คม และอาจมีผงหมึก น้ำหมึกกระจายในตัวเครื่อง ทำให้กระดาษติด ส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องพิมพ์ และแบรนด์ไม่รับประกันจึงต้องเสียค่าซ่อมเอง รวมไปถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพ กรณีผงหมึกและน้ำหมึกรั่วไหลระเหยในอากาศ ทำให้สูดดมสารประกอบที่เป็นพิษเข้าร่างกายด้วย

นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรวมพรินเตอร์ในปีนี้เติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังสินค้าใหม่เริ่มทยอยเข้ามาในไตรมาส 2 ปีหน้า

“โควิดเป็นตัวผลักยอดขายตลาดพรินเตอร์ ทำให้ยอดโดยรวมของแคนนอนโตขึ้นด้วย โดยเฉพาะยอดขายออนไลน์โตขึ้น 3 เท่า ส่วนหนึ่งมาจากการปรับตัวของดีลเลอร์ที่เข้าไปเปิดตลาดในอีมาร์เก็ตเพลซมากขึ้น สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนิวนอร์มอลที่นิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทำให้ปริมาณการใช้หมึกเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนการซื้อหมึกปลอมเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลเสียต่อตลาดโดยรวม ทำให้บราเดอร์ฯและแคนนอนหันมาจัดแคมเปญ “คนใช้หมึกแท้เท่านั้นที่รู้” ร่วมกัน

เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงผลเสียของหมึกปลอม และหันมาใช้หมึกแท้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมุ่งให้ความรู้และข้อดีของการใช้หมึกแท้ ทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน โดยในปีหน้าเตรียมดึงแบรนด์อื่นเข้ามาร่วมแคมเปญนี้ด้วย เพื่อกระตุ้นให้ตลาดเติบโตได้ต่อเนื่อง

“ผู้บริโภคเลือกใช้หมึกปลอมมากขึ้นเพราะราคาถูกกว่า แต่ไม่ทราบถึงผลเสียที่ตามมา แคมเปญนี้จึงเป็นบทท้าทาย ซึ่งจะประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้น วัดได้จากงานซ่อมที่ส่งเข้ามาในศูนย์บริการ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าลูกค้าใช้หมึกประเภทใด”

“แม้เราจะเป็นผู้นำในธุรกิจพรินเตอร์ทั้งคู่ จึงเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันก็ตาม แต่การจับมือครั้งนี้เป็นการตั้งเป้าร่วมกัน เพื่อจุดกระแสให้ผู้บริโภคหันมาเลือกใช้หมึกแท้ เพื่อคุณภาพการพิมพ์และประสิทธิภาพการใช้งานของพรินเตอร์ในระยะยาว คาดว่าปีหน้าจะจับมือกับแบรนด์อื่น ๆ ทำแคมเปญลักษณะนี้เพิ่มขึ้น”