“แสนรู้” ดึงทุนซีรีส์A ได้ 250 ล้าน แจ้งเกิดมาร์เทคสตาร์ตอัพ

“แสนรู้” มาร์เทคสตาร์ตอัพสัญชาติไทยระดมทุนซีรีส์ A ได้เงินกว่า 250 ล้านบาท เดินหน้าขยายตลาด 40 ประเทศทั่วโลก ลุย “จีน-อเมริกา” ฝันไกลใน 3 ปี อัพสถานะเป็น “ยูนิคอร์น”

นายชิต มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งแสนรู้ (Zanroo) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลการตลาดในสื่อสังคมออนไลน์ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นสตาร์ตอัพมาร์เทค (MarTech-Marketing Technology) ที่จะมาช่วยสนับสนุนการทำการตลาด ตั้งขึ้นในปี 2556 ปัจจุบันทำตลาดใน 15 ประเทศ ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น เป็นต้น เติบโต 200-400% ทุกปี และปีที่ผ่านมามีรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท มาจากประเทศไทย 74 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 260 ล้านบาท

ล่าสุดร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ ชิฟ เวนเจอร์ส ระดมทุน Series A เป็นเงิน 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 259 ล้านบาท จากกองทุน, สถาบันการเงิน, เจ้าของธุรกิจและนักลงทุนหลายราย เพื่อรุกตลาด MarTech ทั่วโลก โดยชิฟ เวนเจอร์ส จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการวางโครงสร้างธุรกิจสู่ระดับโลก แนะนำการเข้าสู่กลุ่มลูกค้าในหลากหลายธุรกิจ และช่วยหาพันธมิตรในต่างประเทศ

จุดแข็งของแสนรู้คือ บริการครบวงจรทั้งซอฟต์แวร์ ได้แก่ Social Listening, Social Engagement ที่เข้าถึงข้อมูลในสังคมออนไลน์แต่ละท้องถิ่น และการให้คำปรึกษาที่นำอินไซต์ไปต่อยอดให้ลูกค้าวางกลยุทธ์การตลาดให้เกิดประโยชน์ต่อแบรนด์ หรือป้องกันและบริหารจัดการเหตุวิกฤตที่จะเกิดขึ้น ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 ด้านการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลของลูกค้า

“ปีนี้ได้เงินระดมทุนซีรีส์เอจาก Shift Ventures เพื่อขยายตลาดไปทั่วโลกให้ได้ 40 ประเทศ ถ้ารุกได้ตามแผนจะทำให้เราเป็นยูนิคอร์นได้ภายในปี 2563 ติด 1 ใน 10 ของ MarTech & AdTech ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 24.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยในสิ้นปีนี้จะเข้าไปทำตลาดในจีน หลังวางแผนมา 2 ปี เนื่องจากจีนใช้สื่อสังคมออนไลน์ของตนเอง ส่วนตลาดอเมริกาจะเริ่มต้นปีหน้า”

ด้านนายอุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้งแสนรู้ กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาบริการใหม่ในชื่อ “อรุณ” ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถประมวลผลข้อมูลมหาศาลจากทั้งสื่อโฆษณาที่ลูกค้าจ่ายเงินซื้อ (Paid Media), สื่อที่ลูกค้าสร้างเองและเป็นของตนเอง (Owned Media) และสื่อที่ผู้ใช้สินค้าของลูกค้าพูดถึงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ (Earned Media) รวมกันจึงช่วยวัดผลตอบแทนการลงทุน (Return on Investment) ในโลกดิจิทัลได้ละเอียดขึ้น ทำให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำและตรงจุด

นายวรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัท ชิฟ เวนเจอร์ส กล่าวว่า บริษัทเพิ่งลงทุนในแสนรู้เป็นบริษัทแรก เนื่องจากแสนรู้มีซอฟต์แวร์ที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง และขยายตลาดไปใน 15 ประเทศ โดย 40% นำมาใช้พัฒนาสินค้า อีก 30% ลงทุนสร้างทีมการตลาดในระดับภูมิภาค และ 30% ทำการตลาดเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าไปยังเอสเอ็มอี จากเดิมเน้นองค์กรขนาดใหญ่

และบริษัทจะให้คำปรึกษาและช่วยจัดการเรื่องภาษีที่ต้องเสียในแต่ละประเทศ รวมถึงแนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจ และช่วยหาลูกค้าในยุโรปและเกาหลีให้ด้วย