“Storytel” บูมตลาดสตรีมมิ่งออดิโอ

ข้อมูลการอ่านหนังสือล่าสุดในปี 2561 จากการสำรวจ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้’ (TK park) กับ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า คนไทยใช้เวลาอ่านเพิ่มขึ้นเป็น 80 นาทีต่อวัน ขณะที่ภาพรวมการอ่านของคนไทย พบว่า มีการอ่านถึง 78.8% หรือคิดเป็นจำนวนประชากร 49.7 ล้านคน

ขณะเดียวกันการขยายตัวของสื่อดิจิทัล ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภคไป และทำให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้น หนึ่งในนั้น คือ แอปพลิเคชั่นหนังสือเสียง (Audio Book) ภายใต้ชื่อ “Storytel” ซึ่งเปิดตัวที่สวีเดนในปี 2558 และขยายบริการเข้ามาในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกเมื่อปี 2560 ในหลายประเทศ

เช่น อินเดีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และล่าสุดได้เปิดให้ดาวน์โหลดในไทยเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และมีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปี 2564 ก่อนจะขยับขยายเข้าไปเปิดบริการในประเทศอินโดนีเซียต่อไป

ทั้งนี้กลยุทธ์หลักที่ทำให้แอปพลิเคชั่น “Storytel” ได้รับความนิยมในหลายประเทศ คือ โลคัลไลเซชั่น (Localization) หรือ การเลือกหนังสือให้สอดรับกับความต้องการของคนในแต่ละท้องถิ่น แต่ละประเทศ

“ปวารณา สุวรรณจินดา” ผู้อำนวยการ Storytel ประจำประเทศไทย ผู้ให้บริการระบบสมาชิกอีบุ๊คและสตรีมมิ่งออดิโอบุ๊คระดับโลก กล่าวว่า แอปพลิเคชั่น “Storytel” เปิดตัวครั้งแรกปี 2558 ที่ประเทศสวีเดน หลังจากนั้นก็ขยายตลาดเรื่อย ๆ โดยกลยุทธ์หลักที่ใช้ คือ โลคัลไลเซชั่น (Localization) หรือ การเลือกคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนในแต่ละประเทศ

นั่นหมายถึง การเลือกหนังสือในแต่ละประเทศต้องสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศนั้น ๆ เช่น หนังสือที่เป็นภาษาท้องถิ่น หรือเรื่องที่คนในประเทศนั้น ๆ ชื่นชอบ ซึ่งปัจจุบันมีหนังสือให้บริการกว่า 500,000 เล่มในหลายภาษา

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้เข้ามาเปิดตลาดในไทย โดยเริ่มให้ดาวน์โหลดได้แล้วเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 27 มกราคม 2564 พร้อมแบรนด์แอมบาสเดอร์

“ปวารณา” บอกว่า สำหรับตลาดสตรีมมิ่งออดิโอ หรือ แอปพลิเคชั่นหนังสือเสียงในไทย ถือว่ามีผู้เล่นน้อย หรือแทบจะไม่มีผู้เล่นที่คล้าย ๆ กับ “Storytel” แต่เป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตที่ดี เนื่องจากพฤติกรรมคนเปลี่ยน จากการขยายตัวสื่อดิจิทัล โดยให้ความสนใจกับตลาดสตรีมมิ่งมากขึ้น เพราะมียอดคนใช้งาน (subscribers) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่า ด้วยเทรนด์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสที่สำคัญของ “Storytel” ด้วยเช่นกัน

โดยปัจจุบันมีหนังสือให้บริการทั้งนี้หนังสือภาษาไทยมากถึง 1,000 เล่มจากหลากหลายสำนักพิมพ์ชั้นนำ และหนังสือภาษาอังกฤษ 250,000 เล่ม โดยหนังสือภาษาไทยก็มีให้เลือกหลายหมวด เช่น นิยายและวรรณกรรม โรแมนติก ธุรกิจ นิยาย LGBTQ เป็นต้น

รวมถึงยังเพิ่มอรรถรสในการฟังให้แก่ผู้บริโภค ด้วยทีมนักพากษ์ถึง 200 คน เช่น รัดเกล้า อามระดิษ ที่มาพากษ์หนังสือเรื่อง สุดแค้นแสนรัก เป็นต้น

ส่วนแนวทางการทำตลาดช่วงเริ่มต้นนั้น จะเน้นการทดลองให้ใช้บริการ 14 วัน เพื่อสร้างการรับรู้ และจะเปิดบูทแนะนำแอปพลิเคชันหนังสือเสียงและอีบุ๊กสู่กลุ่มลูกค้าไทยครั้งแรก ที่ งานเทศกาลหนังสือฤดูหนาว (Winter Book Fest) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10-20 ธันวาคมนี้ พร้อมนำเสนอคลังคอนเทนต์หนังสือเสียงและอีบุ๊กภาษาไทยให้ผู้อ่านได้สัมผัสโลกการอ่านรูปแบบใหม่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายบนแอปพลิเคชันมือถือ โดยราคาค่าบริการแบ่งเป็น 3 แพ็กเกจ ได้แก่ ราคา 229 บาทต่อเดือนต่อหนึ่งบัญชีผู้ใช้งาน ราคา 309 บาทต่อเดือนต่อสองบัญชีผู้ใช้งาน และแพ็กเกจแฟมิลี่ ราคา 379 บาทต่อเดือนต่อสามบัญชีผู้ใช้งาน ซึ่งคาดว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคไทย