“โมโน เน็กซ์” หลังผ่าตัดใหญ่ พลิกธุรกิจ “คอนเทนต์-บุกสตรีมมิ่ง”

แม้โควิด-19 จะทำให้ปีนี้เป็นปีที่ไม่ดีนักสำหรับหลายธุรกิจ แต่กับธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งกลับโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ “โมโน เน็กซ์” (ช่องโมโน29) ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยที่่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลักที่เคยมีรายได้จากธุรกิจทีวี (ช่องโมโน29) กว่า 50% ทั้งลดขนาดองค์กรให้เล็ก และคล่องตัวขึ้น รวมถึงสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่อย่างบริการสตรีมมิ่ง “โมโนแม็กซ์” (MONOMAX)

เขย่าโครงสร้างลดขนาดองค์กร

“ปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ทันทีที่เข้ามารับตำแหน่งซีอีโอ ปลายปี 2562 ก็เริ่มปรับองค์กรทันที เป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19

“โมโนกำลังเป็นองค์กรใหญ่ที่เทอะทะ เริ่มปรับตัวได้ช้าทำให้ภารกิจแรกที่ต้องทำ คือ การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ด้วยการยุบบางหน่วย และรวมบางหน่วยงานเข้าด้วยกัน”
มีเป้าหมายลดจำนวนบุคลากรลง 40% จากพนักงานกว่า 1,000 คน ให้เหลือ 600 คน

“เมื่อภารกิจแรกเริ่มต้นขึ้นทำให้ผมกลายเป็นซีอีโอจอมโหด เข้ามารับตำแหน่งก็โละ และปรับองค์กรทันที สิ่งที่คิดขณะนั้นคือ ถ้ายังแบกองค์กรที่มีความใหญ่ เทอะทะต่อไป ธุรกิจคงไปต่อไม่ได้ ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูก ยอมเจ็บ และจบให้เร็วเมื่อปรับองค์กรเสร็จ เม.ย.ก็เกิดโควิด-19”

โดยปรับโครงสร้างองค์กรโฟกัส 5 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจทีวี (ช่องโมโน29)2.ธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิก “โมโนแม็กซ์” 3.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (29Shopping) 4.ธุรกิจโมโนไซเบอร์ ให้บริการออกแบบธุรกิจออนไลน์ครบวงจร โดย MThai และ 5.ธุรกิจจัดสรรคอนเทนต์ ให้บริการผลิตและจัดหาคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้บริการบนแพลตฟอร์ม 3BB IPTV ที่เริ่มต้นเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

วิดีโอสตรีมมิ่ง…เทรนด์แรง

“บางหน่วยงานไม่ทำกำไร ก็ต้องตัดทิ้ง จากนี้ไปจะเหลือเฉพาะธุรกิจที่ทำกำไร โดยเฉพาะบริการวิดีโอสตรีมมิ่งโมโนแม็กซ์ถือเป็นธุรกิจอนาคตที่บริษัทจะให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”

เขากล่าวว่าตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเลือกดูคอนเทนต์ที่ชอบในเวลาที่สะดวกมากขึ้น ทำให้มีแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งข้ามชาติเข้ามาในไทยมากขึ้น มียอดสมาชิกที่เติบโตรวดเร็ว

ผู้เล่นในตลาดนี้แบ่งเป็น 2 โมเดลคือ จ่ายเงินดู และโมเดลผสม คือ มีทั้งดูฟรีและจ่ายเงินดู ซึ่ง “โมโนแม็กซ์” วางโมเดลชัดเจน คือ จ่ายเงินดู ชูจุดเด่นเรื่องซีรีส์เอเชีย โดยเฉพาะซีรีส์จีน โดยฐานลูกค้าหลัก คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปีปัจจุบันมีสมาชิก 3.9 แสนราย

“หัวใจสำคัญวิดีโอสตรีมมิ่ง คือ คอนเทนต์ ขณะเดียวกันคอนเทนต์ก็เป็นความเสี่ยงของธุรกิจนี้ เพราะต้นทุนสูง และต้องซื้อจากผู้ผลิตรายเดียวกันเราจึงวางแนวทางชัดเจน คือ ไม่ซื้อคอนเทนต์ nonexclusive

เพราะถ้าเราซื้อได้ คู่แข่งก็ซื้อได้ ผู้บริโภคเองก็จะได้คอนเทนต์ซ้ำ ๆ กัน เราจึงซื้อซีรีส์จากหลายค่ายเพื่อบาลานซ์ความเสี่ยง รวมถึงหาคอนเทนต์อื่น ๆ เข้าเติมทั้งคอนเทนต์ไทยที่ผลิตเอง หรือโคโปรดักชั่น”

สำหรับธุรกิจทีวี ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทก็ปรับต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มสัดส่วนคอนเทนต์ไทย และซีรีส์เอเชียรวมถึงการปรับคอนเทนต์ข่าวเพิ่มความเข้มข้นขึ้นทำให้ความนิยมของผู้ชม (เรตติ้ง) เพิ่มขึ้น และมีฐานคนดูกลุ่มอายุ 25-35 ปีขึ้นไปที่แข็งแรง ขณะที่สินค้าเริ่มกลับมาใช้เม็ดเงินโฆษณาตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าภาพรวมของรายได้ของธุรกิจทีวีในไตรมาส 4 จะดีขึ้น ทำให้ภาพรวมของบริษัทขาดทุนลดลง

ซินเนอร์ยี่ 3BB สร้างการเติบโต

“ปฐมพงศ์” เล่าว่ากลางปีที่ผ่านมา3BB บริษัทในเครือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์มีแผนทำกล่องอินเทอร์เน็ตทีวี (IPTV) โดยให้บริษัทที่มีประสบการณ์ด้านการซื้อขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากผู้ผลิตต่างประเทศเข้าไปเจรจากับเอชบีโอ (HBO) และได้สิทธิการนำคอนเทนต์ของเอชบีโอมาออกอากาศ

แต่ขณะนั้นมีปัญหาเรื่องกล่องที่ยังไม่เสร็จจึงร่วมกับเอชบีโอ นำแอปพลิเคชั่น “HBO GO” ขึ้น พร้อมเปิดตัวแพ็กเกจ “3BB GIGATainment” ภายใต้แนวคิด “หนังฮิต ซีรีส์ดัง ระดับเวิลด์คลาสบน HBO GO MONOMAX” เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอชบีโอไว้ก่อน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ก่อนที่จะมีการเปิดตัวกล่อง “3BB GiGa TV” ในปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2564 บริษัทจะเดินหน้ากลยุทธ์ “ซินเนอร์ยี่ธุรกิจในเครือ” มากขึ้น โดยสิ่งที่ทำไปแล้ว คือ การเข้าไปบริหารคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม 3BB IPTV คาดว่าจะเริ่มมีรายได้ตั้งแต่ปลายปีนี้ และเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า

โดยบริษัทเข้าไปบริหารคอนเทนต์ให้กล่อง “3BB GiGa TV” ทั้งหมด 100 ช่อง มี 6 ช่องที่ผลิตเอง เช่น ช่อง BB Sport นำเสนอรายการกีฬาจากต่างประเทศ ช่อง BB Asian นำเสนอซีรีส์เอเชีย เป็นต้น รวมถึงจะมีรายได้จากการให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง “โมโนแม็กซ์” ด้วย เนื่องจากกล่อง “3BB GiGa TV” รองรับการใช้งานโมโนแม็กซ์ด้วย

“การเข้าไปบริหารคอนเทนต์ทำให้ในปี 2564 เราจะได้สิทธินำคอนเทนต์ที่เอชบีโอได้มาออกอากาศบนฟรีทีวี ช่องโมโน29 ด้วย ทำให้การวางแผนการตลาดทำได้ดีขึ้น และเร็วขึ้น”

จากแนวทางทั้งหมดที่วางไว้ คาดว่าจะทำให้ในปี 2564 มีรายได้ถึง 2,843 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจทีวี 67% โมโนแม็กซ์ 17% โมโนไซเบอร์ ที่ให้บริการออกแบบธุรกิจออนไลน์ครบวงจร 7% ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 2% ธุรกิจจัดสรรคอนเทนต์ ให้บริการผลิตและจัดหาคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศเพื่อให้บริการบนแพลตฟอร์ม 3BB IPTV 2% อื่น ๆ 5%