“ซินเน็ค” ลุยตลาดเกมมิ่ง ลุ้น “ไอที-มือถือ” โตข้ามปี

ตลาดเกมมิ่ง

“ทำงาน-เรียน” ที่บ้าน ดันสินค้าไอทีโตข้ามปี “ซินเน็ค” เดินหน้าบุกตลาดเกมมิ่ง-ไลฟ์สไตล์เทคโนโลยี เจรจายักษ์ผู้ผลิตเกมดังจากญี่ปุ่น เป็นตัวแทน “Nintendo Switch” ดีเดย์ต้นปีหน้า

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีกล่าวว่า ภาพรวมตลาดไอทีปีนี้มีการเติบโตที่ดีจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาทำงาน และเรียนจากที่บ้านมากขึ้น

สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

โดยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แท็บเลต รวมถึงอุปกรณ์เกมมิ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้น แม้ไวรัสโควิด-19 จะทำให้ซัพพลายขาด แต่จะกลับสู่สภาวะปกติในไตรมาส 1 หรือ 2 ปีหน้า จึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง

และบริษัทเพิ่งปิดดีลการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องเล่นเกม (games console) “Nintendo Switch” ผู้เดียวในประเทศไทย จึงได้เห็นการรุกเข้าสู่ตลาดเกมมิ่งเพิ่มขึ้น รวมถึงได้เป็นผู้ดูแลบริการหลังการขายให้ Xiaomi ซึ่งมีสินค้าเทคโนโลยีหลากหลายในปีหน้าจึงตั้งเป้าการเติบโต 10-15%

ขณะที่กำลังซื้อในกลุ่มลูกค้าระดับกลางลงล่างเริ่มมีปัญหาตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 แต่กลุ่มบนยังไม่สะดุด โดยเฉพาะความนิยมในไอโฟน 12 ประกอบกับมีมาตรการช้อปดีมีคืนมาช่วยกระตุ้นจึงมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจปี 2564 จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เชื่อว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง

ส่วนผลประกอบการ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) มีรายได้ 23,460 ล้านบาท ลดลง 7.46% จากช่วงเดียวกันปีก่อนแต่ในแง่กำไรดีขึ้น โดยมีกำไรขั้นต้นเติบโต 4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่คาดว่าภาพรวมรายได้ปีนี้อาจลดลงกว่าปีที่ผ่านมา

ด้านนายปัญญา พูนเพิ่มผลสิริ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทเดียวกันเปิดเผยเพิ่มเติมว่า จะนำ “Nintendo Switch” เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยราวกลาง ม.ค. เจาะตลาดร้านเกมและค้าส่ง ซึ่งที่ผ่านมาสินค้าที่จำหน่ายในประเทศจะหิ้วมาจากต่างประเทศมากกว่า ทำให้มีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องเล่นเกมมากขึ้น จากที่แข็งแกร่งในตลาดเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก รวมถึงเป็นผู้นำตลาดเกมมิ่งเกียร์ในประเทศไทย

“ตลาดเกมมิ่งโตแบบก้าวกระโดด มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วงที่โควิดระบาด และยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะฐานลูกค้ากว้างและเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ”

สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้คาดว่าในเชิงจำนวนคาดว่าจะลดลง 5% จากปีก่อน เนื่องจากคนหันไปซื้อโน้ตบุ๊กและแท็บเลตมากขึ้นจากกระแสเวิร์กฟรอมโฮม แต่การเปิดตัวไอโฟน 12 ทำให้ตลาดคึกคักขึ้น ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำเข้าสมาร์ทโฟน 5 แบรนด์ ได้แก่ Apple, หัวเว่ย, ซัมซุง, เทคโน โมบาย และโมโตโรล่า

คาดว่าปี 2564 เทคโนโลยี 5G และการเพิ่มของดีไวซ์ที่รองรับ 5G จะผลักดันให้ตลาดกลับมาคึกคักมากขึ้น