ไปรษณีย์ไทย เพิ่มโฟกัส 4 ด้าน สู้ศึก “ขนส่ง” ปี’64 ย้ำภารกิจตอบแทนสังคมไทย

“ไปรษณีย์ไทย” เผยยอดขนส่งปี’63 ทะลุ 2,400 ล้านชิ้น เดินหน้าอัพสปีดธุรกิจรับมือแข่งดุ เพิ่มโฟกัสการพัฒนาองค์กรใน 4 ด้าน ทั้ง “เทคโนโลยี-บุคลากร-บริการ-พันธมิตร” ย้ำภารกิจสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจควบคู่สังคมไทย

นายกาหลง ทรัพย์สอาด รักษาการในตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่าในปี 2563 ที่ผ่านมา ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศไทยยังเติบโตและแข่งขันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ส่งผลให้คนทุกภูมิภาคเลือกส่งสินค้ากับผู้ให้บริการขนส่งที่มีหลากหลาย สำหรับไปรษณีย์ไทยมีปริมาณการขนส่งพัสดุ จดหมาย และไปรษณียภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ รวมกว่า 2,400 ล้านชิ้นยังถือว่าอยู่ในระดับน่าพอใจ เนื่องจากการแข่งขันด้านราคา ส่วนแบ่งตลาดที่มีจำนวนผู้ให้บริการเพิ่มขึ้น และการสื่อสารต่าง ๆ ได้เปลี่ยนผ่านไปสู่ช่องทางดิจิทัล

“นอกจากลูกค้า ประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของไปรษณีย์ไทย เพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ  หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปถึงทุกหน่วยทางสังคมในช่วงการระบาดของ COVID-19 การช่วยขนส่งของดีจากวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรทั่วประเทศผ่านเว็บไซต์ Thailandpostmart โดยเฉพาะผลไม้ และผลิตผลทางเกษตรกรรมที่ไม่สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้”

กาหลง ทรัพย์สอาด

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่มุ่งกระจายโอกาสไปสู่สังคม เช่น โครงการ ไปรษณีย์… reBOX เปลี่ยนกล่องเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 โดยไปรษณีย์ไทยได้รับกล่อง/ ซองไม่ใช้แล้วจากคนไทยรวมกว่า 71,200 กิโลกรัม เพื่อส่งต่อให้ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) แปรรูปเป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ ส่งมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 220 แห่งทั่วประเทศ โดยได้ส่งมอบครบทั้งหมดแล้วเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ตลอดจนการสร้างพันธมิตรกับธุรกิจเอกชนและภาครัฐบาลเพื่อต่อยอดทรัพยากรของกันและกันให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

นายกาหลงกล่าวเพิ่มเติมว่าในปี 2564 ไปรษณีย์ไทยคาดว่าธุรกิจการขนส่งยังแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการต่าง ๆ ทั้งรัฐ และเอกชนที่เข้ามาในธุรกิจนี้ ประกอบกับการแข่งขันด้านราคา คุณภาพการบริการ ฯลฯ ไปรษณีย์ไทยจึงมีการปรับตัวในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้

– ด้านเทคโนโลยี ไปรษณีย์ไทยเร่งนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งทั้งในประเทศและระหว่างประเทศครบวงจร รวมถึงเทคโนโลยีที่จะสร้างประสบการณ์และผลประโยชน์ทางตรงให้ผู้ใช้บริการ เช่น ติดตั้งตู้รับฝากอัตโนมัติ เพื่อลดเวลารอคอยใช้บริการในที่ทำการไปรษณีย์ เช่น ไปรษณีย์จตุจักร ไปรษณีย์ภาษีเจริญ ไปรษณีย์บางขุนเทียน เป็นต้น

ติดตั้งตู้ไปรษณีย์ชาญฉลาดที่แจ้งเตือนไปรษณีย์ในพื้นที่ไปรับได้ทันทีที่มีคนหย่อนจดหมาย เพิ่มจำนวนเครื่องคัดแยกอัตโนมัติ เพื่อคัดแยกรองรับสิ่งของอีคอมเมิร์ซไปปลายทางใช้รถขนส่งควบคุมอุณหภูมิเพื่อคงคุณภาพของสินค้าจากเกษตรกรสู่ปลายทางใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อนำจ่ายสิ่งของ ตลอดจนแผนในการพัฒนา Account Credit Email ยืนยันเอกสารสำคัญต่าง ๆ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

– ด้านบุคลากร ไปรษณีย์ไทยมีจุดแข็งด้านบุคลากรกว่า 40,000 คน ที่เข้าถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย โดยจะพัฒนาศักยภาพต่อยอดทักษะของบุคลากรให้มีความสามารถหลากหลาย มีคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกัน รองรับการให้บริการในยุคดิจิทัลสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยรุ่นใหม่

– ด้านบริการ เน้นอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการทุกที่ ทุกเวลาผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น LINE OA ที่สามารถติดตามสถานะสิ่งของ ค้นหาไปรษณีย์ใกล้บ้าน สร้างใบจ่าหน้า รวมถึงเรียกใช้บริการรับฝากนอกสถานที่ (Pick-up service)

– ด้านพันธมิตร มุ่งเน้นดำเนินงานภายใต้แนวคิด “พันธมิตรธุรกิจไปรษณีย์ไทย” เพื่อนำจุดเด่นของทั้งองค์กรรัฐ เอกชน มาสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมร่วมกัน โดยในปีที่ผ่านมาได้เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น การร่วมส่งพวงหรีดสานบุญ by Carenation ความร่วมมือระหว่างเอไอเอสในการส่งซิมการ์ดให้กับคนไทยทั่วประเทศ ความร่วมมือกับไทยคม ติดตั้งระบบ Digital Service Kiosk รองรับการอ่านข้อมูลบัตรประชาชน กล้องถ่ายภาพยืนยันตัวตน (eKYC) เพื่อการทำธุรกรรมสำคัญ เป็นต้น


นายกาหลงกล่าวด้วยว่าจากการประเมินผลภาพลักษณ์แบรนด์ “ไปรษณีย์ไทย” ปี 2563 ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ทั้งลูกค้าที่ใช้บริการไปรษณีย์ไทย และผู้ใช้บริการขนส่งรายอื่น พบว่าลูกค้าประชาชนให้ความไว้วางใจในแบรนด์ “ไปรษณีย์ไทย” ในระดับ 92.5% จึงขอขอบคุณลูกค้า ประชาชนที่รัก และเชื่อมั่นในไปรษณีย์ไทย โดยจะยังเดินหน้าพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพบริการให้เกิดขึ้นต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือสังคมไทย เป็นมิตรที่ใกล้ชิด เคียงข้างกับคนไทยตลอดไป