Digital Marketing 2020 ในการทำโฆษณาออนไลน์

คอลัมน์ Pawoot.com
คอลัมน์ Pawoot.com
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

เมื่อก่อนการตลาดดิจิทัลเป็นเรื่องใหม่มีคนทำน้อย คนที่ทำมีความได้เปรียบ ฯลฯ แต่ digital marketing ปีนี้กำลังจะเป็น red ocean ครับ ผมมีมุมมองการตลาดดิจิทัลสำหรับปีนี้ที่หลายอย่างน่าสนใจมาก

1.การตลาดดิจิทัลจะเป็นเรื่องปกติใครก็ทำกัน เมื่อทุกคนทำเหมือนกัน มีลูกเล่นคล้ายกันจะเริ่มเกิดการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น แต่ในแง่การทำโฆษณาโจทย์ คือทำอย่างไรให้เวิร์ก ได้ผล เกิดยอดขาย ต้องใช้พละกำลังมากขึ้น ใช้กลยุทธ์มากขึ้น ราคาของโฆษณาจะเริ่มแพงมากขึ้น เพราะคนโดดลงมามากขึ้น คีย์เวิร์ดต่าง ๆ ต้องจ่ายแพงขึ้น

2.โฆษณาออนไลน์ต้องปรับแต่งให้เก่งขึ้น เพราะมีการแข่งขันมากขึ้น ฉะนั้น จึงต้อง optimize กันแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาที่ต้องจ่ายไปเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ราคาต่อคลิก ราคาต่อรายได้ที่ได้เข้ามา การทำ AD optimisation เป็นเทรนด์ที่มาแน่นอน

3.ทุกคนพูดถึง data ซึ่งข้อมูลลูกค้ามีหลายอย่าง หนึ่งคือ first party data เช่น ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ต่าง ๆ การเก็บข้อมูลลูกค้าที่เป็น first party data ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น

แต่สิ่งที่จะตามมาคือ กฎหมาย PDPA ที่ต้องบริหารจัดการด้วย ฉะนั้น เรื่อง first party data คุกกี้ต่าง ๆ ที่บรรดาโฆษณา Google หรือ Facebook ใช้ติดตามลูกค้าจะลดบทบาทลง ใครที่มีข้อมูลลูกค้ามากที่สุดจะได้เปรียบมากกว่า

4.digital CRM มาแรง ทุกคนเริ่มพูดคำว่า CRM จริงจัง เมื่อก่อนคำนี้อาจใช้เฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่เพราะแพลตฟอร์มหรือระบบ CRM ราคาสูง แต่วันนี้ราคาไม่แพงแล้ว ใช้งานง่าย

และในแง่ความคิดหรือพฤติกรรมของเจ้าของธุรกิจเริ่มเข้าใจเรื่อง CRM มากขึ้น การเก็บข้อมูลลูกค้า การนำมาวิเคราะห์ การนำมาทำการตลาด SMEจะเริ่มใช้ CRM มากขึ้นด้วย

5.chat commerce มาชัดเจน ปีนี้ chat commerce หรือ conversation commerce จะเก่งขึ้น เพราะผู้ให้บริการอย่าง LINE หรือ Facebook messenger ฯลฯ เริ่มกระโดดเข้ามา ไม่เป็นแค่แชตแล้วแต่มี payment มีแพลตฟอร์มเข้าไปด้วย

ตอนนี้ Facebook เริ่มอินทิเกรตเข้าไปแล้ว คือ ใช้ในเฟซบุ๊กแล้วจ่ายผ่านเฟซบุ๊กได้เลย ฉะนั้น พวกคอมเมิร์ซผ่านแชตจะเริ่มเยอะขึ้น

6.influencer มีมากขึ้น เจ้าของธุรกิจเริ่มหันมาใช้เม็ดเงินกับอินฟลูเอนเซอร์ หรือคนที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์เพิ่มขึ้น ทำให้อินฟลูเอนเซอร์เอเยนซี่เริ่มมากขึ้นตามไปด้วย ข้อดีของการใช้อินฟลูเอนเซอร์ คือ เม็ดเงินตกอยู่ในประเทศไทย ตัวเลขเม็ดเงินของอินฟลูเอนเซอร์ตอนนี้แซงหน้าเสิร์ชไปแล้ว

รายได้มหาศาลของ “ยูทูบเบอร์” ทำให้กลายเป็นอาชีพที่เด็กรุ่นใหม่ใฝ่ฝัน รวมถึงเครื่องมือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ก็ออกมาเยอะ influencer marketing ทำให้คนผลิตคอนเทนต์ออกมาได้ดีขึ้นด้วย การบริหารเริ่มมีความซับซ้อนขึ้น เจ้าของธุรกิจหรือต้องทำการตลาดเองต้องกลับมาดูว่าจะหล่อหลอมทุกอย่างให้กลับมารวมกันกลายเป็นสื่อโฆษณาที่มีประสิทธิภาพได้อย่างไร

7.MarTech นำมาใช้มากขึ้น marketing technology เป็นการตลาดโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ปัจจุบันเริ่มมีเครื่องมือหลายตัวเข้ามาช่วยให้ทำการตลาดง่ายมากขึ้น ปีนี้จะเริ่มเป็นกระแสการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้บริหารจัดการสื่อโฆษณา จะเริ่มมีเข้ามาช่วยทำให้เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดทำงานได้ง่ายมากขึ้น

8.ผู้บริโภคขี้เกียจมากขึ้น เมื่อก่อนจะซื้อสินค้าอะไรต้องเช็กราคาก่อน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วข้อมูลเริ่มมาหาเราเอง

ฉะนั้น พฤติกรรมผู้บริโภคจะเริ่มขี้เกียจขึ้น ฉะนั้น การขายหรือการเข้าถึงสินค้าเปลี่ยนไปมันสลับข้างกัน ยุคนี้เป็นยุคที่เจ้าของสินค้าต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค ต้องปรับตัวอย่างมากเลยทีเดียว

และเรื่อง live commerce ยังเป็นตัวหนึ่งที่ค่อนข้างได้ผล live commerce อย่างไรก็ยังมา เทรนด์อีกอันที่เมืองจีนฮิตมาก ผมคิดว่าอาจเกิดที่เมืองไทยก็คือ เริ่มมีธุรกิจที่ทำเหมือนเป็นห้อง ๆ

ให้คนเข้าไปไลฟ์ขายของออนไลน์ อาจจะลงทุนทำเป็นสตูดิโอขนาดใหญ่ และซอยเป็นห้องเล็ก ๆ ให้คนมาเช่าไลฟ์ขายของ มีอุปกรณ์เสียง อุปกรณ์เสริมให้ครบเข้ามาแต่ตัวก็ไลฟ์ขายของได้เลย

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นภาพรวมของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในแง่การทำโฆษณาออนไลน์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 นี้ครับ