ลุยต่อลมหายใจร้านตู้มือถือ “ไอทีจังก์ชั่น” ผนึกพันธมิตรอัดฉีดคู่ค้า

JAS แอสเซ็ท เปิดแผนปี’64 ฟื้นธุรกิจบริหารพื้นที่่เช่าขายมือถือ ลุยปูพรมเปิด “IT Junction” เพิ่มรวดเดียว 10 ทำเลใหม่ พร้อมซินเนอร์ยี่ธุรกิจในเครือจับมือพันธมิตรจัดแคมเปญช่วยผู้เช่าตั้งแต่ปล่อยสินเชื่อยันอัดโปรโมชั่นกระตุ้นตลาด หวังติดสปีด ร้านตู้มือถือทั่วประเทศ

โควิด-19 สร้างผลกระทบให้ทุกธุรกิจ รวมถึงร้านตู้มือถือทั่วประเทศที่ลดจำนวนลง เพราะไม่มีเงินทุนดำเนินธุรกิจต่อ ขณะที่ฟากฝั่งผู้ให้เช่าพื้นที่ก็ต้องปรับแผนใหม่

นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ผู้บริหารพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้า ในชื่อ “IT Junction” กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ว่า

ในแง่ของดีลเลอร์มือถือถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าการระบาดรอบแรก เนื่องจากล็อกดาวน์เฉพาะบางพื้นที่ ซึ่งบริษัทมีพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ากระจายอยู่ 33 สาขาทั่วประเทศ และยังเปิดให้บริการทำให้ผลกระทบไม่มากเมื่อเทียบกับกลางปีก่อนที่ล็อกดาวน์ทุกพื้นที่

อย่างไรก็ตาม มาตรการดูแลผู้เช่าพื้นที่ในแต่ละสาขาจะแตกต่างกันไป เช่น จังหวัดที่มีการประกาศล็อกดาวน์อย่างแม่กลอง สมุทรสงคราม และอ่างทอง บริษัทให้ความร่วมมือกับนโยบายภาครัฐ

ด้วยการปิดให้บริการชั่วคราว และลดค่าเช่าให้ร้านค้าเช่าที่ไม่สามารถเปิดร้านได้ ซึ่งวิธีบริหารค่าเช่าจะดูความต้องการ และตอบสนองโจทย์ผู้เช่าในแต่ละโลเกชั่นแตกต่างกันไป หากในจังหวัดไหนได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ก็จะพิจาณาช่วยเหลือตามความต้องการของผู้เช่าในแต่ละโลเกชั่น

ร้านตู้มือถือกระจายตัวทั่วประเทศ

นายสุพจน์กล่าวว่า ปัจจุบันตู้มือถือไม่ได้หายไป และร้านที่อยู่ในพื้นที่กลางเมือง เช่น “เอ็มบีเค” ก็ยังอยู่ แต่จำนวนไม่เท่าเดิม และกระจายตัวไปทั่วประเทศมากขึ้น ซึ่งในเชิงจำนวนร้านอาจไม่เพิ่มขึ้น

เนื่องจากผู้ประกอบการร้านตู้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเอสเอ็มอี ทำให้เลิกกิจการไปบ้าง แต่ก็มีหน้าใหม่เข้ามาทดแทน เพราะลงทุนไม่สูง หากโควิด-19 สิ้นสุด คาดว่าจะมีร้านตู้มือถือเพิ่มขึ้น 20% จากเดิม

“ร้านมือถือในต่างจังหวัดยังได้รับความนิยม เพราะมีบริการอื่น เช่น จำนำมือถือ รับฝากขาย ประกอบกับมือถือเป็นสินค้าจำเป็น จากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป การทำธุรกรรมทั้งโอนเงิน จ่ายเงิน ถ่ายรูป เช็กอีเมล์ ติดต่อสื่อสารอยู่บนมือถือหมดแล้ว ขณะที่ร้านตู้ก็กระจายตัวมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ ไลน์อัพสินค้าหลากหลายขึ้น”

อัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอด

สำหรับแนวโน้มกำลังซื้อของผู้บริโภคในไตรมาส 1/2564 ยังเป็นปัจจัยที่น่ากังวล คาดว่าอาจลดลงแค่ระยะสั้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

แบ่งผู้บริโภคเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ คนที่มีกำลังซื้อ และยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ไม่มั่นใจทำให้ไม่จับจ่าย คาดว่ากลุ่มนี้จะฟื้นกลับมาทันทีเมื่อมีความมั่นใจ หรือเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย อีกกลุ่มคือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เชื่อว่าจะฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน จึงประเมินว่ากำลังซื้อจะหายไปแค่ช่วงสั้น ๆ และที่สุดจะฟื้นกลับมา

“ปีนี้บริษัทจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์มากขึ้น ทั้งกลุ่มบริษัทในเครือ และนอกเครือ ในการสร้างเครื่องมือช่วยให้ผู้เช่าขายสินค้าได้ง่ายขึ้น คล่องขึ้น เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนมาก เช่น เจมาร์ท จะเข้ามาช่วยเรื่องสินเชื่อให้ผู้เช่าใน IT Junction

ด้วยการให้นำสินค้าจากร้านเจมาร์ทโมบายมาขายได้ หรือร่วมกับเอไอเอส สร้างแคมเปญหรือให้ส่วนลดระหว่างร้านตู้กับเอไอเอส ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา รวมถึงการให้ผู้เช่าปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าที่ซื้อมือถือได้

หรือมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ซึ่งซิงเกอร์จะเข้ามาซัพพอร์ต ทั้งหมดจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้เช่าขายสินค้าได้ง่ายขึ้น และแตกต่างจากร้านตู้มือถือรายอื่น ๆ”

นายสุพจน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาบริษัทร่วมกับพาร์ตเนอร์สร้างเครื่องมือขายให้ลูกตู้มือถือมากขึ้น และในปีนี้จะเพิ่มดีกรีมากขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อชะลอการเติบโตลง โดยจะยกโมเดลเจมาร์ทโมบายมาให้ผู้เช่า แต่ฐานลูกค้าหรือรายได้ของเจมาร์ทจะไม่หายไป เพราะมีลูกค้าเป็นร้านตู้มือถือเพิ่มขึ้น ถือว่า win-win ทั้งสองส่วน”

นอกจากนี้ บริษัทยังแบ่งมาตรการช่วยเหลือผู้เช่าเป็น 2 ส่วน คือ กรณีที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้จะยกเว้นค่าเช่าให้ อีกมาตรการคือช่วยผู้เช่า ด้วยการจัดโปรโมชั่นร่วมกัน เพื่อกระตุ้นยอดขาย

ปักหมุดขยาย 10 สาขารวด

ส่วนแผนขยายธุรกิจในปี 2564 จะเดินหน้าขยาย “IT Junction” เพิ่มอย่างน้อย 10 สาขา ทั้งในส่วนของศูนย์การค้าบิ๊กซี ซึ่งจะพิจารณาโลเกชั่นใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

และเปิดกว้างสำหรับการเข้าไปบริหารพื้นที่เช่ามือถือให้เจ้าของพื้นที่ เช่น ตลาดนัด และคอมมิวนิตี้มอลล์โลคอลแบรนด์ เป็นต้น รวมถึงเจ้าของที่ดินที่สนใจพัฒนาเป็นศูนย์จำหน่ายมือถือ เพื่อขยาย “IT Junction” เจาะเข้าชุมชน

“ปีนี้จะกลับมาขยาย IT Junction เข้าไปในโลเกชั่นใหม่ ๆ หลังหยุดไป 2-3 ปี จากเศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโต และตลาดมือถือโดยรวมทรงตัว ที่ผ่านมาจึงโฟกัสเฉพาะสาขาที่มีศักยภาพ

แต่ปีนี้คาดว่าตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากเทคโนโลยี 5G อีกทั้งสมาร์ทดีไวซ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ IOT ประกอบกับมีพาร์ตเนอร์หลากหลาย ทั้งเอไอเอส, เจมาร์ทโมบาย, เจฟินเทค, ซิงเกอร์ ทำให้มีความพร้อม และครบเครื่องในการทำตลาดมากขึ้น”

โดยโมเดลการขยาย “IT Junction” ยังใกล้เคียงเดิม เพราะผู้เช่าหลักคือ ร้านตู้มือถือ ขายเครื่องมือหนึ่ง มือสองราคาไม่สูงมาก และมีบริการอื่น ๆ ทั้งจำนำ-ฝากขายมือถือ รับซ่อม

เจาะตลาดแมส คนละเซ็กเมนต์กับแบรนด์ช็อป แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ ทำให้ “IT Junction” เข้าถึงได้ง่าย ใกล้ชิดมากขึ้น ด้วยการขยายสาขาเข้าไปในชุมชนมากขึ้น

“วันนี้ไม่เฉพาะธุรกิจมือถือที่ต้องเปลี่ยน เพราะพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป อย่างธุรกิจร้านอาหารไม่จำเป็นต้องเปิดสาขาในศูนย์การค้าทั้งหมด แต่กระจายในหลายพื้นที่ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เช่นเดียวกับตลาดมือถือก็ต้องกระจายเข้าไปในพื้นที่ใหม่ ๆ มากขึ้น

และเชื่อว่าด้วยแนวทางที่วางไว้ ทั้งการขยายโลเกชั่นใหม่ ๆ และสร้างเครื่องมือขายให้แก่ผู้เช่า จะช่วยสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทในปีนี้ด้วย