ไอซีที

มัดรวม สมาร์ทโฟน 5G งบไม่ถึงหมื่น

หากย้อนดูตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2563 ก็พบว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดัง ทั้ง iPhone หัวเว่ย ซัมซุง เสี่ยวหมี่ ต่างทยอยเปิดไลน์อัพสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ออกมาเรื่อย ๆ แต่ราคาก็ค่อนข้างแรง ขณะที่ต้นปีนี้ บรรดาค่ายมือถือต่าง ๆ  ก็เดินหน้าเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ระลอกใหม่ แต่ราคาเบาลง ขณะที่ฟังก์ชั่นก็เริ่ดทีเดียว

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G แต่ราคาไม่ถึง 10,000 บาทไว้ เพื่อใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ สเปกแน่น ๆ ไว้ใช้งาน

เริ่มต้นปี ด้วย MI ที่ประเดิมส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 2 ตัวลงตลาดไทยแบบสด ๆ ร้อนๆ  คือ “Redmi Note 9T 5G” สองซิม ชิปเซ็ตทรงพลัง MediaTek Dimensity 800U จาก MediaTek แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W ส่วนหน้าจอกว้างถึง 6.53 นิ้ว เป็นหน้าจอ LCD ให้ความละเอียดแบบ Full HD+ อีกทั้งยังมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลักความละเอียด 48MP กล้อง Ultra Wide และกล้อง Macro กล้องหน้าความละเอียด  มี 2 สี ได้แก่ Night Black และ Daybreak Purple  ราคารุ่น 4GB+64GB อยู่ที่ 6,999 บาท และรุ่น 4GB+128GB อยู่ที่ 7,499 บาท

ต่อมาคือ “Redmi 9T” ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 662 หน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W ส่วนกล้องหลังให้มาถึง 4 ตัว กล้องหลักความละเอียด 48MP กล้องความละเอียด Ultra Wide 8MP กล้องความละเอียด Macro และกล้อง Dept  พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP มีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ Carbon Gray, Twilight Blue, Sunrise Orange และ Ocean Green  ราคารุ่น 4GB+64GB ราคา 4,499 บาท  และรุ่น 4GB+128GB ราคา 5,299 บาท

ก่อนหน้านี้ OnePlus ได้เปิดตัว “OnePlus Nord N10 5G” ไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 ชิปเซ็ต Snapdragon 690 5G แบตเตอรี่ 4,300 mAh รองรับการชาร์จไว 30W หน้าจอกว้าง 6.49 นิ้ว หน้าจอแบบ LCD ให้ความละเอียดแบบ Full HD+ พร้อมรีเฟรชเรท 90Hz มาพร้อมกล้อง 4 ตัว กล้องหลัก 64MP กล้อง Ultra Wide 8MP กล้อง Dept 2 MP และกล้อง Macro 2MP กล้องหน้าความละเอียด 16 MP ราคาอยู่ที่9,990  บาท

ค่ายน้องใหม่มาแรงจากแดนจีน Realme ส่งสมาร์ทโฟน 5G 2 รุ่นลงตลาด เริ่มที่ “Realme 7 5G” ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 800U 5G แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 30W มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมรีเฟรชเรทสูง 120 Hz เจาะรูมุมซ้ายบนสำหรับกล้องเซลฟี่ 16MP กล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลัก 48MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP กล้องแมโคร 2MP และกล้องเดปท์ 2MP

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี “Chroma Boost” ช่วยประมวลภาพให้ได้สีชัด รองรับสีมากถึง 16.7 ล้านสี ให้ความสว่าง 40nits เหมาะสำหรับที่แสงจ้า และรองรับเสียง Dolby Audio ลำโพง 4 ตัว ให้ความดัง 24W ให้อรรถรสการรับฟังเสียงแบบรอบทิศ ราคา 9,999 บาท

ส่วน “โมโตโรล่า” ก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ราคาไม่ถึง 10,000 บาท แต่รองรับ 5G โดยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ถึง 3 รุ่น ได้แก่  ‘Moto g 5G plus’ มาพร้อมความแรง 5G ระดับ ultra-fast เหมาะสำหรับการดาวน์โหลดและสตรีมมิ่ง พร้อมหน้าจอแสดงผลถึง 6.7 นิ้วแบบ CinemaVision (21:9) FHD+ และ HDR10 ให้ความคมชัดของสีและคอนทราสท์ที่สมจริง และสามารถปลดล็อกเครื่องด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างเครื่องได้ และเอาใจสายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าสองตัวขนาด 16 MP และ 8 MP ultra-wide เพิ่มพื้นที่หน้าเฟรมที่กว้างขึ้น โดยกล้องหลัก 48 MP มาพร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel และโหมด Night Vision สามารถเก็บภาพได้ทุกสภาพแสง และสามารถใช้เลนส์ Ultra-Wide จับภาพมุมกว้าง และโหมด Macro Vision เก็บรายละเอียดภาพอย่างใกล้ขึ้น 4 เท่า ในราคา 9,990 บาท

ต่อมา ‘Moto g9 plus’ หน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว Max Vision FHD+ HDR10 ใหญ่สุดในสมาร์ทโฟนตระกูล moto g พร้อมให้สีคมชัดสดใส มีเทคโนโลยีสแกนนิ้วที่ปุ่มข้างเครื่อง ปลดล็อกได้ทันทีเพียงแตะครั้งเดียว มีกล้อง 4 ตัว ทั้งกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel และโหมด Night Vision กล้อง ultra-wide 8 MP กล้อง macro 2 MP และเซ็นเซอร์วัดความลึก 2 MP สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง หรือภาพถ่ายบุคคล เก็บรายละเอียดของภาพทั้งใกล้ และไกลได้ในทุกสภาพแสง แบตเตอรี่มีความจุ 5,000 mAh ใช้งานได้ถึง 2 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ราคา 6,990 บาท

ปิดท้ายด้วย ‘Moto g9 play’ หน้าจอ 6.5 นิ้ว Max Vision HD+ (อัตราส่วน 20:9) กว้างพิเศษ เก็บภาพสวยคมชัดกว่าด้วยระบบกล้องสามตัว ซึ่งประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์กล้องหลัก 48 MP พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel โหมด Night Vision และรูรับแสงกว้าง f/1.7 เซ็นเซอร์วัดความลึก ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพบุคคลแล้วเบลอขอบได้อย่างสวยงาม และกล้อง Macro Vision ซูมได้สูงสุด 4 เท่าแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ในราคาเพียง 4,990 บาท