ดิทโต้ควัก 50 ล้านขยายระบบคลาวด์รองรับลูกค้า

โควิดปลุกองค์กรแปลงเอกสารเป็นดิจิทัล “ดิทโต้” ยิ้มรับดีมานด์พุ่ง ดันรายได้ปี’63 โต 32.5% วางแผนเจาะธุรกิจค้าปลีก-ภาครัฐ ควัก 50 ล้านขยายระบบคลาวด์รองรับลูกค้าเพิ่ม

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลกล่าวว่า โควิด-19 ทำให้หลายองค์กรทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล เปลี่ยนเอกสารให้มาอยู่ในรูปแบบดิจิทัลเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 6 เท่า จึงขยายบริการระบบจัดการเอกสารดิจิทัลแบบครบวงจร (document & data management solutions)ที่มีโซลูชั่นแปลงเอกสารเป็นดิจิทัล (document digitization) จัดหมวดหมู่เอกสารดิจิทัลให้ง่ายต่อการค้นหา และจัดการข้อมูลในองค์กรผ่านคลาวด์ และบริการซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการเอกสารดิจิทัล

“ธุรกิจ document management โตมาก มีสัดส่วนรายได้ถึง 40% ของรายได้รวม โดย 90% มาจากภาครัฐที่มีการลงทุนตั้งแต่วางโครงสร้างระบบพื้นฐานอีก 10% เป็นกลุ่มเอกชนที่มีระบบเซิร์ฟเวอร์เดิมอยู่แล้ว อย่างกลุ่มเซ็นทรัลก็นำระบบของเราไปใช้จัดเก็บข้อมูลทางบัญชี ทำให้การตรวจสอบบัญชีทำได้เร็วขึ้น จาก 15 วัน เหลือ 3-5 วัน หรือศาลยุติธรรมก็เริ่มแปลงเอกสารสำนวนคดีย้อนหลัง 10 ปีเป็นดิจิทัลช่นกัน”

สำหรับธุรกิจเดิมของบริษัท คือ การให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสาร และเครื่องสแกนเอกสารมีความซบเซาไปบ้าง แต่ก็ยังมีรายได้ต่อเนื่องปีละ 300 ล้านบาท โดยผลประกอบการในปี 2563 มีรายได้ไตรมาส 1-3 กว่า 756 ล้านบาท เป็นกำไร 95 ล้านบาท

โตขึ้นจากปี 2562 ถึง 32.5% และคาดว่าในปีนี้จะโตอย่างน้อย 10% ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มธุรกิจค้าปลีก, ประกัน และภาครัฐขนาดใหญ่ที่มีเอกสารจำนวนมาก และมีแผนลงทุนระบบคลาวด์เพิ่มเติมอีก 50 ล้านบาท รองรับจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังทำ MOU กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผลิตบุคลากรด้านไอทีออกสู่ตลาดแรงงาน และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ร่วมกัน รวมถึงมีบริษัทสยามทีซีเป็นบริษัทลูกให้บริการวิศวกรรมเทคโนโลยี อาทิ การวางระบบท้องฟ้าจำลอง, วางระบบโทรมาตร และระบบเทคโนโลยีอาคาร เป็นต้น