
บิ๊กกลุ่มสามารถ “วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” เปิดทางลูกหม้อ บริหารงานแทน
วันที่ 24 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีมติแต่งตั้งผู้บริหารดำรงตำแหน่ง ประกอบด้วย นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ และ นายธีระชัย พงศ์พนางาม ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 นั้น
นายวัฒน์ชัยเปิดเผยว่า “การปรับเปลี่ยนตำแหน่งและบทบาทหน้าที่ผู้บริหารในกลุ่มบริษัทสามารถนั้น เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากบริษัทมีนโยบายในการสร้างและพัฒนาบุคลากรภายในให้เติบโตในสายงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนด Succession Plan หรือแผนการสืบทอดตำแหน่งไว้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ก็เพื่อคงประสิทธิภาพและความต่อเนื่องในการบริหารงาน อีกทั้งยังถือเป็นการสร้าง Sense of Ownership ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานรุ่นต่อ ๆ ไปขององค์กรอีกด้วย
ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทสามารถได้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายมากมาย ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้บริษัท ทุกปัญหาที่เข้ามาคือบทเรียนที่ทำให้เราแกร่งขึ้น ดังนั้น ผมจึงคิดว่าเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมในการขยับตำแหน่งตนเอง เพื่อมุ่งเน้นในการมองหาโอกาสและสร้างธุรกิจใหม่ ๆ อย่างจริงจังให้กลุ่มสามารถ
โดยได้มอบหมายให้คุณธีระชัย พงศ์พนางาม ซึ่งเป็นผู้บริหารที่พร้อมด้วยประสบการณ์ ความสามารถ และได้พิสูจน์ฝีมือให้เป็นที่ยอมรับ ตลอดระยะเวลาที่ร่วมงานกับ “สามารถ” มากว่า 20 ปี ขึ้นดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อดูแลการบริหารจัดการ Business Operation แทน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564”
นายวัฒน์ชัยกล่าวต่อว่า ในการขยายธุรกิจใหม่ของกลุ่มสามารถ บริษัทได้ศึกษาและนำเสนอโมเดลธุรกิจ B2G2C แก่หลาย ๆ องค์กรของรัฐและรัฐวิสาหกิจ เพื่อตอบสนองนโยบายในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนในยุคดิจิทัล โดยมั่นใจว่าโมเดลธุรกิจที่เน้น All Win นี้ จะทำให้ทุกฝ่ายทั้ง ประชาชน รัฐ และเอกชนได้รับประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา Business Solutions และ Mobile Applications ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบัน โดยมีแนวทางในการพัฒนาขึ้นเอง และลงทุนร่วมกับ Start up ที่น่าสนใจมากขึ้น
“ผมมั่นใจว่า เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาแล้ว จากนี้ไปจะเข้าสู่ยุคของการพลิกฟื้นและการสร้างรากฐานธุรกิจที่ยั่งยืนให้แก่กลุ่มสามารถต่อไป”