น้องใหม่มาแรง “เสียวหมี่” ดัน Mi11 เขย่าตลาดสมาร์ทโฟน 5G

น้องใหม่มาแรง “เสียวหมี่” เปิดราคา Mi11 แฟล็กชิป 5G รุ่นใหม่ มาพร้อมของแถมหลักหมื่น เขย่าสมรภูมิสมาร์ทโฟนไทย ตั้งเป้าขยับส่วนแบ่งขึ้นอันดับ3ในไทยเร็วทีสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียวหมี่ (Xiaomi) เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Mi 11 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของ Mi Series อย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด ‘Movie Magic’ โดยจะเปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่ 26 กุมภาพันธ์ –12 มีนาคม 2564 และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 13 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

นายคามัล เหลียง ผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการทำตลาดสมาร์ทโฟนใน 90 กว่าประเทศทั่วโลก โดยสามารถขึ้นเป็นท็อปไฟว์ใน 54 ประเทศ และท็อปทรีใน 36 ประเทศ และอันดับหนึ่งใน 10 ประเทศ รวมถึงสเปน ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 4 ในตลาดโลกแล้วตั้งแต่ 2563 ปีที่ผ่านมา

สำหรับในประเทศไทย เมื่อปีที่แล้วก็สามารถผลักดันยอดขายจนมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 4 ได้แล้วจากการมีสินค้าครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์ ภายใต้จุดยืนที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับวาง “ราคา”ที่เหมาะสม รวมไปถึงความแข็งแรงของการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ทำให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาได้

“เราใช้งบลงทุนด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) ในปีที่ผ่านมา1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีเป้าหมายเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ในราคาที่คุ้มค่า ตามปรัชญาการดำเนินธุรกิจของเสียวหมี่ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดในสมาร์ทโฟนทุกรุ่น สำหรับปีนี้ เราขอประเดิมตลาดสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดตัว Mi 11 ซึ่งถือเป็นรุ่นแฟล็กชิปเพื่อบุกตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมในประเทศไทย”

โดย Mi 11 รองรับเทคโนโลยี 5G รุ่นล่าสุดของ Mi Series ที่รองรับเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ขุมพลังจากชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 ใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ระบบบันทึกเสียงแบบภาพยนตร์ และระบบเสียงจาก Harman Kardon และการรองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 50W ในดีไซน์พรีเมียม ทำให้เครื่องรุ่นนี้เปรียบได้กับโรงถ่ายภาพยนตร์ในมือ มีให้เลือก 2 สี คือ Midnight Gray และ Horizon Blue ความจุ 2 ขนาด ได้แก่ RAM 8 GB + ROM 128 GB และ RAM 8 GB + ROM 256 GB ราคาเริ่มต้น 21,990 บาท”

ผู้บริหารเสียวหมี่กล่าวด้วยว่าปีนี้เสียวหมี่จะเพิ่มงบประมาณด้านการตลาดมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมากว่าเท่าตัวเพื่อสร้างฐานแฟนคลับเพิ่มเติม รวมไปถึการเปิด MI Shop เพิ่ม จากที่มีกว่า 30 แห่ง เป็น 100 แห่ง ช่องทางการจัดจำหน่ายจาก 4,000 แห่งเป็น 8,000 แห่ง รวมถึงบริการหลังการขาย มีเป้าหมายเพื่อขึ้นเป็น 1 ใน 3 ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว เสียวหมี่ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่กระเป๋า, กาต้มน้ำ, หม้อหุงข้าว, เครื่องดูดฝุ่น, เครื่องฟอกอากาศ, หูฟัง, สายรัดข้อมืออัจฉริยะ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีวางขายในไทยแล้วก็กว่า 200 ชนิด โดยทั้งหมดจะมุ่งไปยัง AIOT (เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กับ IOT) โดยมีสมาร์ทโฟนเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน