Z Holdings ควบรวม ไลน์ สำเร็จ ลุยขยายธุรกิจทั่วญี่ปุ่น

กลุ่มซีโฮลดิ้ง ประกาศปิดดีล ควบรวม ไลน์ แล้วเสร็จ แตก 4 กลุ่มขยายธุรกิจทั่วญี่ปุ่น  ตั้งเป้าปี 66 รายได้ทะลุ 2 ล้านล้านเยน

วันที่ 1 มีนาคม2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มซี โฮลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น (ZHD) และ ไลน์ คอร์ปอเรชั่น (LINE) ได้ทำการควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทตามกระบวนการด้านกฎหมายเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้บรรลุข้อตกลงควบรวมกิจการตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2562

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ZHD ถือเป็นหนึ่งในบริษัทด้านอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีพนักงานกว่า 23,000 คน มีบริการกว่า 200 บริการแก่ผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านคน ลูกค้าองค์กรกว่า 15 ล้านราย และ โครงการร่วมกว่า 3,000 โครงการในเทศบาลเมืองต่างๆ

อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการครั้งนี้ ทำให้กลุ่มบริษัท ZHD มีขอบข่ายธุรกิจครอบคลุมการให้บริการสารสนเทศ การจ่ายเงิน และการสื่อสาร  และยังคงเน้นการให้บริการ Yahoo! JAPAN อย่างต่อเนื่อง

ผสานจุดแข็งขยายธุรกิจทั่วญี่ปุ่น

ขณะที่ธุรกิจหลักของ LINE คือ การให้บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต (Search) และการเป็นเว็บท่า (Web Portal) การโฆษณา (Advertising) และการให้บริการส่งข้อความ (Messenger) ซึ่งการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทจะโฟกัสไปที่ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ การพาณิชย์ (Commerce) สินค้าและบริการในแนวดิ่ง (Local Vertical) เทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) และ การบริการสาธารณะ (Public Services) โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีด้านข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ในทั้ง 4 ด้าน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน

สำหรับธุรกิจแรก คือ  1.การพาณิชย์ (Commerce) จะให้บริการซื้อสินค้าภายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเชื่อมโยงกับหน้าร้าน โดยจะมีการเปิดตัวบริการใหม่ๆ เช่น การให้ของขวัญผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย  Social Gift การซื้อแบบกลุ่ม (Team Commerce) เป็นต้น อีกทั้งยังมีบริการซอฟต์แวร์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ผ่าน “โครงการสมาร์ทสโตร์” (Smart Store Project) ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีกำหนดแผนเปิดตัว “โครงการสมาร์ทสโตร์” (Smart Store Project) ในครึ่งปีแรกนี้

ธุรกิจที่ 2. สินค้าและบริการในแนวดิ่ง (Local Vertical)  โดยจะให้บริการซอฟต์แวร์เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ผ่านปัญญาประดิษฐ์ เช่น การบริการด้านการจองที่พักและร้านอาหาร ในด้านของการโฆษณา เป็นต้น  ซึ่ง บริษัทฯ จะให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการตลาดในรูปแบบใหม่แก่ธุรกิจต่างๆ ผ่านการผสานความร่วมมือกับ Yahoo! JAPAN, LINE และ PayPay เพื่อจะช่วยให้ธุรกิจมีแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ต่อด้วย 3. เทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) เตรียมพร้อมที่จะเชื่อมโยงผู้ค้าที่ให้บริการการจ่ายเงินผ่าน PayPay และ LINE Pay โดยเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนปีนี้ ซึ่งผู้ใช้งาน LINE Pay จะสามารถจ่ายเงินผ่านผู้ค้า PayPay กว่า 3 ล้านรายทั่วประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ PayPay และ LINE Pay ยังเริ่มเจรจาเรื่องการจ่ายเงินโดยใช้คิวอาร์โค้ด (QR Code) และบาร์โค้ด (Barcode) ของ LINE Pay ผ่าน PayPay ในเดือนเมษายน ปี 2565

ผุดบริการ Line Doctor

ส่วนที่ 4. การบริการสาธารณะ (Public Services)

จะมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการให้บริการสาธารณะ การป้องกันภัยพิบัติ การสาธารณะสุข และความพยายามที่จะแก้ปัญหาด้านสังคมต่างๆ ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

นอกจากนี้ ยังจะให้บริการการแพทย์ทางไกลผ่าน “LINE Doctor” ซึ่งเป็นบริการจาก LINE Healthcare Corporation สำหรับผู้ใช้งานในประเทศญี่ปุ่น การให้บริการแพทย์ทางไกล และจะพัฒนาการให้บริการ ตั้งแต่การให้คำแนะนำออนไลน์เรื่องการใช้ยา ไปจนถึงการส่งยาและการให้บริการการรักษาผ่านทางออนไลน์ โดยตั้งเป้าจะเริ่มให้บริการคำแนะนำออนไลน์เรื่องการใช้ยาภายใน ปี 2564 และผลักดัน “LINE Doctor” ให้เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น

ลุยลงทุนต่างประเทศ

สำหรับการลงทุนขยายธุรกิจระดับต่างประเทศนั้น ทางกลุ่มบริษัท ZHD มีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างคุณค่าใหม่ๆ โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการบริการทุกรูปแบบ และเพื่อจะให้บรรลุตามเป้าประสงค์ในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นศูนย์กลางการเติบโตของธุรกิจ  โดยกลุ่มบริษัทมีแผนทุ่มทุนกว่า 5 แสนล้านเยน เพื่อขยายฐานและเพิ่มจำนวนของวิศวกรปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineer) ทั้งในและต่างประเทศราว 5,000 ตำแหน่ง ภายในระยะเวลา 5 ปี

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังจะเดินหน้าสร้างความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ เพื่อพัฒนาการบริการ สินค้า และฟีเจอร์ใหม่ๆ  และเมื่อผนวกกับองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากตลาดหลักของ LINE ในต่างประเทศ อาทิ ไต้หวัน ไทย และอินโดนีเซีย กลุ่มบริษัท ZHD จะสามารถพัฒนาการให้บริการและสามารถเพิ่มศักยภาพได้ในระดับโลก 

ทั้งนี้ ภายใต้โครงสร้างการบริหารจัดการใหม่นี้  ZHD ตั้งเป้าหมายว่าการดำเนินการแบบสอดประสานกันจะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตขึ้น

โดยตั้งเป้าหมายว่า จะสร้างรายได้กว่า 2 ล้านล้านเยนและสร้างสถิติรายได้จากการดำเนินงานสูงสุดกว่า 225,000 ล้านเยน ภายในปี 2566