“Muze” แนะธุรกิจทำ Omni Channel ดึงบิ๊กดาต้าสร้างบริการเจาะลูกค้ารายบุคคล

Muze แนะธุรกิจทำ “Omni Channel” ใช้ดาต้าวิเคราะห์ลูกค้า สร้างเซอร์วิส ตั้งเป้าปี 2564 เปลี่ยนลูกค้าเป็นพาร์ตเนอร์ จับมือ BECi ปรับโฉม “3+” เตรียมเสิร์ฟคอนเทนต์ลงตลาด

นายพีรณัฎฐ์ ทูลแสงงาม ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท Muze ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์โซลูชั่นด้านเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นแบบครบวงจร กล่าวว่า ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นทำให้ธุรกิจกลุ่มรีเทลกระทบหนัก จากการที่ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น 88.6% และกว่า 58.3% มักจะหาข้อมูลหรือดูรีวิวก่อนซื้อสินค้า ทำให้ลูกค้าออฟไลน์หายไป หลายธุรกิจจึงเร่งสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นของตนเอง ลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถคืนทุนได้ เพราะเจอคู่แข่งเป็นแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่จากต่างชาติ

“ธุรกิจต้องการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ ทำให้ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มจากต่างประเทศ ขายสินค้าผ่านลาซาด้า ช้อปปี้ ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อปิดการขาย ซึ่งเป็นผลดีเพราะธุรกิจได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ แต่ธุรกิจต้องอยู่บนความไม่แน่นอน เพราะแพลตฟอร์มมักจะเปลี่ยนแปลงกฎบางอย่าง และดึงทราฟิกสินค้าอื่นมากลบสินค้าเรา”

ทางรอดของธุรกิจคือ การสร้าง “Omni Channel” เพื่อเชื่อมต่อร้านค้าออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีบิ๊กดาต้าวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อออกแบบสินค้า และเซอร์วิสให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล

นายพีรณัฎฐ์ กล่าวต่อว่า Muze จะช่วยธุรกิจสร้าง “Omni Channel” ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางผ่านทีมดีเวลลอปเปอร์และโปรดักซ์โอนเนอร์ ที่จะสร้างโปรโตไทป์หรือโครงร่างเล็ก ๆ เพื่อทดสอบก่อนการใช้งานจริง หลังจากนั้นจะสร้างเกตเวย์เพื่อเชื่อมโยงร้านค้าออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ขยายไปยังช่องทางอีคอมเมิร์ซ สร้างเว็บไซต์ให้ธุรกิจ และสร้างช่องแชทเพื่อปิดการขายโดยไม่ต้องไปใช้แพลตฟอร์มอื่น

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้โซลูชั่นของ Muze ได้แก่ แม็คกรุ๊ป หรือ “Mc Jeans” ที่ผสานร้านค้าออฟไลน์กว่า 600 สาขาทั่วประเทศเข้ากับออนไลน์ จากเดิมต้องสต๊อกสินค้าประมาณ 6 ล้านบาทต่อสาขา แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็น “Omni Channel” จึงเปลี่ยนร้านค้าให้เป็นร้านฟิตติ้งรูม สั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน๋ ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนไปใช้พัฒนาในส่วนอื่น ซึ่งทำให้ปีที่ผ่านมา มีกำไร 12.7% ขณะที่อุตสาหกรรมแฟชั่นมีผลกำไรโดยรวมอยู่ที่ 0.7% เท่านั้น คาดว่าปีนี้แม็คกรุ๊ปจะมียอดขายออนไลน์สูงถึง 540 ล้านบาท

สำหรับรายได้หลักของ Muze กว่า 60% มาจากธุรกิจรีเทล และอีก 40% มาจากธุรกิจที่ต้องการผันตัวมาสู่ “Omni Channel” ธุรกิจเทลโก้และมิเดีย โดยเป้าหมายในปี 2564 Muze ตั้งเป้าที่จะเติบโตกว่าปีก่อน 2 เท่า และจะเปลี่ยนลูกค้าให้เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจในลักษณะ “Joint Venture” หรือธุรกิจร่วมค้าในระยะยาว โดยล่าสุดจับมือกับ BECi ปรับโฉมแพลตฟอร์ม OTT (Over The Top) “3+” (สามพลัส) เพื่อมุ่งสร้างออริจินัลคอนเทนต์ป้อนสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ