ฟอร์ซพอยต์ เผย ไซเบอร์ซีเคียวริตี้เทรนด์ 64 แฮกเกอร์คือคนใกล้ตัว

ฟอร์ซพอยต์ เผย แฮกเกอร์ตีเนียน ใช้คนในองค์กรโจมตีระบบ ธุรกิจดึง “ไซเบอร์ซีเคียวริตี้” สร้างจุดขาย หันใช้แมชีนเลิร์นนิ่งแบบไฮบริด แนะทำระบบรักษาความปลอดภัยให้เป็นบริการพื้นฐาน ทุกคนเข้าถึงได้

นายแบรนดอน แทน หัวหน้าทีมที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ฟอร์ซพอยต์ กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้แทบทุกองค์กรต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็นการทำงานแบบ “Digital Workplace” หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้ องค์กรจึงต้องยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แน่นหนาขึ้น และใช้เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจได้ในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ผลการศึกษาจาก “Forcepoint Future Insights” ระบุว่า ในปี 2564 จะเป็นปีแห่งการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ควมท้าทายคือการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของลูกค้า หลายองค์กรจึงหันมาใช้โซลูชั่น “ไซเบอร์ซีเคียวริตี้” เป็นเครื่องมือในการสร้างความต่างให้ธุรกิจ

แบรนดอน แทน

โดยเฉพาะสถาบันการเงินที่แม้ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทรานส์ฟอร์มองค์กรได้เร็วที่สุด แต่การเซ็นเอกสารบางประเภทยังต้องอาศัยการลงลายมือชื่อแบบเก่า ปีนี้จึงจะได้เห็นกลุ่มสถาบันการเงินนำการเซ็นดิจิทัล หรือ E-Signature มาใช้ควบคู่ไปกับระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น และสอดรับกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ที่จะมีผลบังคับใช้กลางปีนี้

“แมชีนเลิร์นนิ่ง” เป็นสิ่งที่ทุกอุตสาหกรรมพยายามจะประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีไซเบอร์ ปีนี้แมชีนเลิร์นนิ่งและระบบ AI จึงจะถูกตรวจสอบความแม่นยำอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความผิดพลาด และจะมีการใช้งานแบบไฮบริดคือ ใช้แมชีนเลิร์นนิ่งพร้อมกับแรงงานมนุษย์ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลบางอย่างที่ระบบ AI ไม่สามารถทำได้

ขณะที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ จะกลายเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากขึ้น แฮกเกอร์โจมตีระบบจะเกิดจากคนภายในองค์กรประมาณ 15-25% กรณีศึกษาจากเว็บอีคอมเมิร์ซ “Shopify” ที่พนักงานพยายามขโมยข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลการทำธุรกรรมของลูกค้าไปขายให้คนภายนอก หรือกรณีของ “Tesla” ที่แฮกเกอร์รัสเซีย จ้างวานพนักงาน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้ไปติดตั้งมัลแวร์ในระบบ

ฉัตรกุล โสภณางกูร

นายฉัตรกุล โสภณางกูร ผู้จัดการประจำประเทศไทย และอินโดจีน บริษัท ฟอร์ซพอยต์ กล่าวว่า ภาคธุรกิตจะต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่สร้างแพลตฟอร์มเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้า และสามารถใช้บิ๊กดาต้าที่มีอยู่มาวิเคราะห์ ต่อยอดบริการอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังต้องสร้างโซลูชั่นที่เรียกว่า “Secure Access Service Edge” หรือ SASE คือการทำซิคิวรีตี้ให้เป็นเซอร์วิสพื้นฐานที่พนักงานในองค์กรหรือลูกค้าสามารถใช้บริการได้

ฟอร์ชพอยต์ เป็นผู้ให้บริการดาต้าโพเทคชั่นครบวงจร ให้บริการทั้งโซลูชั่นคลาวด์ และโซลูชั่นไซเบอร์ซิคิวรีตี้ ซึ่งเป็นโซลูชั่นสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทรานส์ฟอร์มไปยังดิจิทัลได้ ดังนั้นเป้าหมายธุรกิจในปีนี้ จะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ทั้งภาครัฐ สถาบันการเงิน องค์กรขนาดใหญ่ และ SMEs และเดินหน้าขยายแพลตฟอร์มไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน