“เฟซบุ๊ก“ แนะใช้โซเชียลเจาะนักช็อปนิวนอร์มอล

(FILES) Photo by AFP

ยักษ์โซเชียลเน็ตเวิร์ก “เฟซบุ๊ก” เจาะลึกเทรนด์ผู้บริโภคย้ำวิกฤตโควิด-19 กระตุ้นพฤติกรรม “นักแสวงหาความสบาย” มองโซเชียลเป็นตัวช่วยประหยัดเวลาช็อปปิ้ง แนะ “แบรนด์” ไลฟ์ขายสินค้าเพิ่มลอยัลตี้ และสื่อสารกับลูกค้าด้วยเทคโนโลยี AR รับวิถีช็อปปิ้งแบบนิวนอร์มอล

นางสาวแพร ดํารงค์มงคลกุล ผู้อำนวยการ เฟซบุ๊ก ประเทศไทย กล่าวถึงผลการศึกษา “Emerging Trends : The Forces Shaping the Future Today” ที่เฟซบุ๊กร่วมกับอิปซอสส์ในการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค 12,500 คน จาก 14 ประเทศทั่วโลก อายุระหว่าง 18-64 ปี พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคปรับตัวสู่ดิจิทัลภายในเวลาไม่กี่เดือน จากเดิมอาจต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี

แพร ดํารงค์มงคลกุล

โดยผู้บริโภคเริ่มหาวิธีการซื้อสินค้าที่ต่างไปจากเดิม และเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่งผลให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ต้องปรับตัวไปด้วย

ขณะเดียกัน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มักเป็นผู้นำเทรนด์ของโลก และขับเคลื่อนกระแสต่อไปยังประเทศอื่น สำหรับเทรนด์ผู้บริโภคที่จะได้เห็นในปี 2564 ชัดเจนว่าผู้บริโภคเริ่มคุ้นชินกับโลกนิวนอร์มอล และมักใช้ “แชตคอมเมิร์ซ” ในการซื้อขายสินค้า

รวมถึงการสร้างคอมมิวนิตี้ในโลกออนไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยในสิ่งที่มีความสนใจร่วมกัน อีกทั้งยังต้องการให้แบรนด์สื่อสารกับตนเองผ่านเทคโนโลยี และสร้างเนื้อหาให้ตรงใจกับความต้องการของตนเอง

นั่นทำให้ “ความสะดวกสบาย” กลายเป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องมอบให้ลูกค้า โดยผลสำรวจพบว่าโควิด-19 กดดันให้ผู้บริโภคต้องวางแผนชีวิตตนเองมากขึ้น และกลายเป็นนักแสวงหาความสะดวกสบาย

โดยผู้บริโภค 86% ยินดีจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการในอัตราที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย 94% นำความสะดวกสบายมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อสินค้า และ 93% มองว่าโซเชียลมีเดียจะช่วยประหยัดเวลาของพวกเขาได้

ผู้บริโภค 60% ต้องการใช้เวลากับครอบครัว และเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ 72% ต้องการใช้เวลาไปกับการท่องเที่ยว และ 32% ต้องการสร้างประโยชน์ให้สังคม แบรนด์จึงต้องปรับบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้นในเวลาที่น้อยลง

นางสาวแพรกล่าวด้วยว่า ผู้บริโภคยังต้องการ “มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์” 86% บอกว่าโซเชียลเป็นช่องทางที่จะทำให้ใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น ขณะที่เทรนด์ไลฟ์ช็อปปิ้งก็มาแรงเช่นกัน โดยในปีที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกว่า 65% ที่ลองช็อปสินค้าผ่านไลฟ์เป็นครั้งแรก 92% ยืนยันว่าจะซื้อสินค้าผ่านไลฟ์ในปีนี้ และ 28% จะซื้อสินค้าผ่านไลฟ์ทุกเดือน

ผู้บริหาร “เฟซบุ๊ก” มองว่าไลฟ์ช็อปปิ้ง เป็นช่องทางใหม่ที่จะทำให้แบรนด์สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค เหมาะสำหรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ แบรนด์จึงต้องนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภค เช่น เทคโนโลยี AR (augmented reality)

และ VR (virtual reality) ที่มีการนำแบรนด์เครื่องสำอางมาให้ลูกค้าผู้หญิงได้ทดลองสีลิปสติกก่อนซื้อ ตอบโจทย์การช็อปปิ้งแบบนิวนอร์มอล

จากการสำรวจยังพบอีกว่าผู้บริโภคกว่า 88% ต้องการให้แบรนด์ใช้ AR สื่อสารกับตน

อย่างไรก็ตาม “กลุ่มออนไลน์” ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเข้าไปพูดคุยและรับฟังปัญหาที่ผู้บริโภคเจอ เพื่อทำความเข้าใจและพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก 800 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก 35 ล้านกลุ่ม ขณะที่ผู้ใช้งานคนไทย 91% เป็นสมาชิกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และ 75% ต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น

ปัจจุบัน เฟซบุ๊ก ประเทศไทย มียอดผู้ใช้งานแอ็กทีฟรายเดือนอยู่ที่ 62 ล้านคน ส่วนผู้ใช้งานแอ็กทีฟรายวันอยู่ที่ 45 ล้านคน และมีกลุ่มเฟซบุ๊กทั้งหมด 6 ล้านกลุ่ม