ชมปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกรุงเทพฯ วันที่ 26 เม.ย นี้ 

สถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติ ชวนชมปรากฎการณ์ ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกรุงเทพในวันที่ 26 เม.ย นี้ ส่วน 27 เม.ย ชวนดู ปรากฎการณ์  ดวงจันทร์เต็มดวงที่สุดในรอบปี

วันที่ 25 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า วันจันทร์ที่ 26 เมษายน2564 เวลาประมาณ 12:16 น. เตรียมพบกับปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกรุงเทพมหานคร  โดยหากยืนกลางแดด ในเวลาดังกล่าว เงาจะตกอยู่ใต้เท้าพอดี ทั้งนี้ ดวงอาทิตย์จะโคจรอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย ครั้งแรก ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม เริ่มจากใต้สุดของประเทศ ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะเคลื่อนที่มาอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นที่เหนือขึ้นไปเรื่อยๆ และจะตั้งฉากกับพื้นที่เหนือสุดของประเทศไทย ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 12.17 น. โดยสามารถดูข้อมูลการเกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉากทั้ง 77 จังหวัดในประเทศไทยได้ที่  https://www.narit.or.th/index.php/news/1696-sun-77-2564

อย่างไรก็ตาม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ระหว่างละติจูด 5-20 องศาเหนือ ส่งผลให้ใน 1 ปี ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่ดังกล่าวถึง 2 ครั้ง เมื่อยืนกลางแดดในวันและเวลาดังกล่าว จะสังเกตเห็นเงาของร่างกายทอดอยู่ใต้เท้าพอดี ไม่เฉียงไปด้านใดด้านหนึ่ง โดยจะมีคาบการโคจรพาดผ่านแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดของประเทศไทยจึงเห็นดวงอาทิตย์ผ่านเหนือศีรษะไม่พร้อมกัน สำหรับดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯ ครั้งต่อไป จะตรงกับวันที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 12:22  น.

ทั้งนี้ การที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลกทำให้ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ แต่อุณหภูมิจะสูงที่สุดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณฝน เมฆ อิทธิพลจากมรสุม ความร้อนสะสมในบรรยากาศ ฯลฯ วันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากจึงอาจไม่ใช่วันที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดเสมอไป

ส่วนวันอังคารที่ 27 เมษายน 2564 เวลา 22:25 น.  ชวนชมปรากฎการณ์ดวงจันทร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในรอบปี ที่ระยะทาง 357,370 กิโลเมตร คืนดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย

โดยดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นรูปวงรี 1 รอบใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นในแต่ละเดือนจะมีตำแหน่งที่ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดเรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะทางเฉลี่ย 356,400 กิโลเมตรและตำแหน่งที่ไกลโลกที่สุดเรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 406,700 กิโลเมตร การที่ผู้คนบนโลกเห็นดวงจันทร์ใหญ่กว่าปกติในคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก นับเป็นเหตุการณ์ปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์