หัวเว่ย เผย ปี 68 องค์กรทั่วโลกทรานส์ฟอร์มใช้คลาวด์ เดินหน้าเปิดตัว 6 บริการใหม่ พร้อมลงทุนกว่า 220 ล้านเหรียญ ปั้นนักพัฒนาคลาวด์ รับตลาดโต พร้อมเดินหน้าสนับสนุนไทยแลนด์4.0
นายริชาร์ด ยู ผู้อำนวยการของหัวเว่ย และซีอีโอของกลุ่มธุรกิจคลาวด์และกลุ่มธุรกิจเพื่อผู้บริโภคของหัวเว่ย กล่าวในงานประชุมนักพัฒนาของหัวเว่ยประจำปี 2564 หรือ Huawei Developer Conference (HDC.Cloud) 2021 ว่า ปี 2568 องค์กรทั่วโลกจะหันมาใช้เทคโนโลยีคลาวด์ โดยคลาวด์ถือเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมไอซีที และเป็นพื้นฐานของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีขององค์กร ซึ่งนักพัฒนาจะเป็นแกนหลักของอุตสาหกรรมนี้
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ทั้งนี้ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคลาวด์ และ AI ที่ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง ภาคอุตสาหกรรมจึงเร่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันให้ทันสมัย สร้างมูลค่าให้กับข้อมูล และพัฒนา AI ในระดับอุตสาหกรรม หัวเว่ยจึงได้จับมือกับนักพัฒนา และพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ เปิดตัวบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ 6 รายการ ได้แก่ “HUAWEI CLOUD CCE Turbo” ระบบคอนเทนเนอร์ สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน ช่วยให้การจัดลำดับงาน การประมวลผล และเครือข่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทุ่ม 220 ล้านเหรียญพัฒนาคนไอที
สำหรับ”HUAWEI CLOUD CloudIDE” เป็นระบบเขียนโปรแกรมออนไลน์ เก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ของหัวเว่ยที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงกว่าผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันในตลาด 54%
ส่วน Trusted Intelligent Computing Service (TICS) ระบบคลาวด์ที่จะช่วยให้การส่งกระแสข้อมูลลื่นไหล ปลอดภัย และสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ “HUAWEI CLOUD Pangu Model” โมเดลการพัฒนา AI เชิงอุตสาหกรรม และ “ซอฟต์แวร์สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน” ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ ฐานข้อมูลระดับธุรกิจองค์กร และกรอบประมวลผล AI แบบรองรับทุกสถานการณ์ เพื่อเสริมศักยภาพการประมวลผลให้มีความหลากหลาย
นายริชาร์ด ย้ำว่า ปี 64 หัวเว่ยจะทุ่มงบลงทุนกว่า 220 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับโครงการ Huawei Developer Program 2.0 รวมถึงเปิดตัวโครงการริเริ่มจำนวนมาก เช่น HUAWEI CLOUD Partner Innovation Program, Kunpeng OpenMind Project และ Ascend OpenMind Project ซึ่งปัจจุบันดึงดูดนักพัฒนาเข้าร่วมโครงการเหล่านี้แล้วกว่า 2.4 ล้านคน”
หนุนไทยแลนด์ 4.0
ด้านนายจาง ผิงอัน (Zhang Ping’an) ประธานกลุ่มธุรกิจคลาวด์และบริการคลาวด์สำหรับผู้บริโภคของหัวเว่ย กล่าวว่า หัวเว่ยจะลงทุนในโครงการ “HUAWEI CLOUD Partner Innovation Program” มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ด้านบริการ Software-as-a-Service (SaaS) และผู้ขายซอฟต์แวร์อิสระ (ISV) รวมทั้งจัดหาทรัพยากรคลาวด์ สร้างความเป็นไปได้ด้านเทคโนโลยี และสนับสนุนด้านการส่งเสริมธุรกิจ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะครอบคลุมขอบข่ายเฉพาะทาง 6 ด้าน ได้แก่ ด้านไมโครเซอร์วิสกับตู้คอนเทนเนอร์, บริการ SaaS, บิ๊กดาต้า, AI, วิดีโอ และเทคโนโลยีเอดจ์อัจฉริยะ (Intelligent Edge)
ขณะเดียวกันในฐานะผู้ให้บริการด้านคลาวด์รายแรกที่สร้างศูนย์ข้อมูลในไทย หัวเว่ยคลาวด์จึงมุ่งมั่นที่จะช่วยผลักดันให้วิสัยทัศน์ Thailand 4.0 ของไทยเป็นจริง หัวเว่ยจึงเริ่มพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรด้านไอซีทีในประเทศผ่านการอบรมออนไลน์ ชื่อว่า “Cloud Diary” มีผู้เข้าชมเป็นนักพัฒนา นิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย อาจารย์ และพนักงานในองค์กรต่าง ๆ มากกว่า 700,000 คน ซึ่งปีนี้จะยังคงจัดต่อเนื่อง
ส่วนการฝึกอบรมออฟไลน์ก็มีทุกเดือนผ่านงานเสวนา “Warrior Workshop” ที่จะเสวนาในหัวข้อด้านไอที เช่น การรักษาความปลอดภัย การย้ายเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลขึ้นไปบนคลาวด์ AI และแมชีนเลิร์นนิง
ทั้งนี้ในปี 2564 ยังจะจัดแข่งขัน “Cloud Developer Contest” สำหรับบริษัทสตาร์ตอัพผ่านโครงการ “Huawei Spark” ซึ่งหัวเว่ย ประเทศไทยจะจับมือกับพาร์ทเนอร์ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อส่งมอบทรัพยากรด้านการเงิน การฝึกอบรมเชิงเทคนิค วิธีทำตลาด และด้านเครือข่าย เพื่อช่วยสร้างศักยภาพที่จำเป็นให้แก่เหล่าสตาร์ตอัพ
