เฟซบุ๊ก ประกาศขยายโครงการ “Community Accelerator” ไปสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย พร้อมสนับสนุนงบพัฒนาชุมชนร่วม 7.5 ล้านเหรียญ หวังสร้างชุมชนทั่วโลกโตแกร่ง
เกรซ แคลปแฮม หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรและโครงการเพื่อชุมชนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เฟซบุ๊ก กล่าวว่า เฟซบุ๊ก ประกาศสานต่อโครงการ “Community Accelerator” ในประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ พร้อมขยายโครงการไปใน 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย เปิดรับสมัครผู้นำชุมชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และชุมชนนั้นจะต้องถูกก่อตั้งมานานกว่า 1 ปี มีจำนวนสมาชิกอย่างน้อย 1,000 คน โดยสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
สำหรับโครงการนี้มีระยะเวลาทั้งสิ้น 8 เดือน โดยจะฝึกอบรม ให้คำปรึกษาผู้นำชุมชนผ่านกิจกรรม อาทิ” Learning Labs” เปิดโอกาสให้ผู้ดูแลกลุ่มมารวมตัวกันในชั้นเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ร่วมกันอย่างเป็นระบบ “กลุ่ม Power Admin” ที่มีผู้นำชุมชนมากกว่า 40,000 คนมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันคำแนะนำระหว่างกัน และ “Community Hub” เข้าถึงการให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ
โดย 5 เดือนแรก จะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญผ่านบทเรียนที่ถูกออกแบบมาตามความต้องการของแต่ละชุมชน รวมถึงพื้นฐานในการสร้างตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากนั้นเวลาที่เหลืออีก 3 เดือนจะใช้สำหรับพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ผ่านการทำงานร่วมกับกลุ่มผู้สนับสนุน และทีมงานของเฟซบุ๊ก
นอกจากนี้ยังจะช่วยจัดหาเงินทุนให้ผู้นำชุมชนในประเทศต่าง ๆ สูงสุด 50,000 เหรียญต่อชุมชน หรือมีเงินสนับสนุนรวมอยู่ที่ 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจุบันมีชุมชนเข้าร่วมแล้ว 77 ชุมชนจาก 13 ประเทศโลก สำหรับประเทศไทยมีทั้งหมด 5 ชุมชน และมี 2 ชุมชนที่ได้รับเงินทุนมูลค่า 25,000 บาทจากเฟซบุ๊กในปีก่อน ได้แก่ Local Alike/Local Aroi ธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และ Ooca แพลตฟอร์มปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์
ด้านทพญ.กัญจน์ภัสสร สุริยาแสงเพ็ชร์ ผู้ก่อตั้ง Ooca กล่าวว่า เฟซบุ๊กให้การสนับสนุนความรู้ และช่องทางในการทำธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังสอนการใช้เครื่องมือในแพลตฟอร์ม เช่น Facebook ads, Facebook Groups, Instagram เพื่อส่งเสริมให้ผู้นำชุมชน สร้างชุมชนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ