“ทรู” รุกตลาดคลาวด์เกมมิ่ง จับกลุ่มเกมเมอร์ 16 ล้านคน

กลุ่มทรูโชว์ศักยภาพ 5G ผนึก Bifrost ลุยตลาดคลาวด์เกมมิ่ง พัฒนาเกม VR, AR ขยายฐานผู้เล่นเกมทั่วไป ตั้งเป้าเจาะเกมเมอร์ 16 ล้านคน

นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ที่ผ่านมาเทคโนโลยี 5G ของทรูจะถูกใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์เป็นส่วนใหญ่แต่อีกตลาดที่ใหญ่ไม่แพ้กัน

คือ ตลาดเกมโดยเฉพาะคลาวด์เกมมิ่ง หรือการเล่นเกมบนระบบคลาวด์ ซึ่งยังไม่มีการเปิดให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการ เพราะคลาวด์เกมมิ่งต้องอาศัยเครือข่าย 5G ที่มีการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว และความหน่วงต่ำ

“เดิมการเล่นเกมพีซีและคอนโซลต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีสเป็กสูง และต้องโหลดเกมก่อนถึงจะเล่นได้ แต่ปัจจุบันมี“คลาวด์เกมมิ่ง” เข้ามาปิดช่องโหว่ตรงนี้ ล่าสุดจับมือกับคลาวด์เกมมิ่งยักษ์ใหญ่ Bifrost Cloud เปิดตัว “True 5G Cloud Gaming by Netboom”

ให้เล่นเกมพีซีและคอนโซลคุณภาพสูงบนสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องโหลดผ่านแอป คลาวด์เกมมิ่ง Netboom ที่ขนเกมระดับ AAA มาไว้ในแพลตฟอร์มกว่า 300 เกม อาทิ PUBG, League of Legend, Overwatch และ Tekken 7”

สำหรับจุดเด่นของ True 5G Cloud Gaming คือ เครือข่ายทรู 5G ที่มีศักยภาพ และมีบริการที่ตอบโจทย์คอเกมทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น “Free Game Mode” สำหรับคอเกมทั่วไป “Instant Play Mode” ที่รวบรวมเกมดัง เช่น Steam, Epic Game, Origin และ “PC Mode” เล่นเกมพีซีบนสมาร์ทโฟนสำหรับฮาร์ดคอเกมเมอร์

นายพิรุณบอกว่า ตลาดเกมพีซีและคอนโซลในไทยใหญ่มาก เฉพาะตลาดเกมพีซีอย่างเดียวก็มีผู้เล่นประมาณ 16 ล้านคนเชื่อว่าบริการคลาวด์เกมมิ่งของทรู 5G จะเข้ามาเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดคลาวด์เกมมิ่งไทยเติบโตขึ้น

ซึ่งทรูตั้งเป้าหมายระยะยาวไว้ว่า จะดึงคอเกมพีซี 16 ล้านคนให้เข้ามาเป็นลูกค้าของทรู และจะขยายฐานลูกค้าไปยังเกมเมอร์สายแคชวล หรือผู้เล่นทั่วไปอีกด้วย ขณะที่การพัฒนาคอนเทนต์เกม

คาดว่าจะเพิ่มเกม VR (virtual reality) และ AR (augmented reality) เข้ามา รวมถึงต่อยอดคลาวด์คอมพิวติ้งไปยังบริการด้านอื่น ๆ ด้วย

“สเต็ปต่อไป ทรูต้องการขยายเครือข่ายพันธมิตรในการให้บริการคลาวด์เพิ่มเติมหากบริการคลาวด์เกมมิ่งของทรูได้รับความนิยมในวงกว้างและเกิดประโยชน์กับคอนซูเมอร์มากขึ้น”