ตัวอย่างความสำเร็จจริง ของการใช้ออนไลน์ช่วยขายของ

คอลัมน์ Pawoot.com
คอลัมน์ Pawoot.com
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

ที่ผ่าน ๆ มาผมเขียนถึงการนำออนไลน์เข้ามาใช้ในธุรกิจในเชิงทฤษฎีมากแล้ว ครั้งนี้อยากยกตัวอย่างในเชิงที่นำไปปฏิบัติและสำเร็จจริงผมอยากบอกว่าทำได้หมดไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใด ตัวอย่างธุรกิจที่ยกมานี้เป็นธุรกิจของครอบครัวผมเอง

“โล้วเฮงหมงมอเตอร์” เป็นบริษัทของคุณพ่อผม เป็นดีลเลอร์จำหน่ายมอเตอร์ไซค์มา 50 กว่าปีแล้ว ทำให้มีสต๊อกอะไหล่รุ่นเก่า ๆ อยู่ในคลังค่อนข้างมาก รุ่นเก่าสุดประมาณ 30 กว่าปี เรียกได้ว่าของเราเป็นของแท้ที่เป็นของใหม่เก่าเก็บ

ก่อนที่จะขายออนไลน์ เราไม่เคยรู้ว่ากลุ่มไหนที่ต้องการอะไหล่พวกนี้ ทำให้สินค้าที่อยู่ในสต๊อกไม่สามารถขายออกได้มานานมาก จึงลองเปลี่ยนวิธีการขายเริ่มมาทำออนไลน์จริงจังเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา

จากจุดเริ่มต้นที่พนักงานแผนกอะไหล่ไม่มีใครเก่งคอมพิวเตอร์ ไม่มีใครรู้เรื่องออนไลน์สักคน จึงเริ่มวางระบบการเรียนรู้ให้เหมือนการเล่นเกม ช่วงแรกพนักงานรุ่นเก่า ๆ ค่อนข้างต่อต้านว่าขายไม่ได้แน่ ๆ

เราจึงให้เขาลองเข้าไปในเฟซบุ๊กที่มีช่องทางขายคือ 1) มาร์เก็ตเพลซ และ 2) เข้าไปในกลุ่มคนที่เล่นรถมอเตอร์ไซค์เก่า ไปดูว่ามีคนที่ตามหาอะไหล่รุ่นไหน แล้วให้เข้าไปดูในคลังของเราว่ามีอะไหล่ที่กลุ่มเหล่านี้ต้องการหรือไม่ ให้เขาลองโพสต์ขายดู

ปรากฏว่ามียอดเข้ามามากขึ้น เราเลยทำเป็นแคมเปญของแผนกอะไหล่ แรก ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าโล้วเฮงหมงมีอะไหล่เก่า พอมีการโพสต์ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ คนก็เริ่มรู้ เริ่มมาถามทำให้เป็นโอกาสในการขายของเก่าได้มากขึ้น และมีโอกาสในการขายรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นด้วย

จุดเด่นของเราคือราคาที่ไม่ได้ปรับขึ้น ของชิ้นนี้อยู่กับเรามานานแค่ไหนเราก็ยังขายในราคาตอนนั้น แม้จะเป็นของที่หายากและคนตามหาอยู่ก็ตาม เคยมีคนที่ทักมาทางออนไลน์แล้วอยากได้ของเก่าหายาก เช่น คาวาซากิ รุ่น Kaze เป็นรถรุ่นเก่า ลูกค้าทักมาทางออนไลน์ว่ามีเฟรมตัวนี้ไหม พอดีที่เรามีเฟรมอยู่ในคลังก็ส่งให้ลูกค้าท่านนั้น ขอแค่ให้รู้ว่าทักมาที่โล้วเฮงหมงแล้วมีของให้ เราขายราคามาตรฐาน

ส่วนใหญ่ลูกค้าจะทักแชตมาทางเฟซบุ๊กส่วนตัวหรือทางไลน์ของพนักงานแต่ละคนที่โพสต์สินค้าออกไป แต่โล้วเฮงหมงก็มีเฟซบุ๊กของบริษัทคือ FB : โล้วเฮงหมง อะไหล่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งก็มีการโพสต์เช่นกัน

จากวันแรกที่พนักงานไม่รู้เรื่องของออนไลน์ เราค่อย ๆ เปลี่ยนทัศนคติ จนทุกวันนี้ทุกคนเริ่มสนุก เรามีการเก็บคะแนนจากการขายได้ มีการให้รางวัลสนับสนุน เอาคะแนนไปผูกใน KPI ของแต่ละคน เป็นการกระตุ้นให้พนักงานทำคะแนน เมื่อทุกคนเริ่มรู้สึกสนุกจะทำให้จากที่นั่งขายหน้าร้านอย่างเดียวก็กระตือรือร้นขึ้นในแง่ของการไม่นั่งรอลูกค้า

การนำออนไลน์มาใช้โดยเฉพาะในแผนกอะไหล่ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ทุกวันนี้ขายของเก่าทางออนไลน์เดือนหนึ่งเกือบแสนบาททีเดียว แม้ว่าลูกค้าจะไม่ได้เข้ามาจากช่องทางที่เราโพสต์ไป แต่มีการบอกต่อ ๆ กันไป ทำให้ขายได้มากขึ้น

ยิ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมา ลูกค้าจะสอบถามในเฟซบุ๊กเยอะมากกว่าเดิม เพราะไม่อยากออกจากบ้าน

เฟซบุ๊กสำนักงานใหญ่ อ.ท่าเรือ กาญจนบุรี (เยื้องวัดท่าเรือ โทร.0-3456-1028) FB : โล้วเฮงหมง มอเตอร์ไซค์ จะเป็นคนกรองให้ว่าลูกค้าอยู่ที่ไหน สนใจรถรุ่นไหน ฯลฯ ให้ก่อน

และส่งต่อให้สาขาที่อยู่ใกล้ หรือบางคนก็โทร.มาที่แผนกอะไหล่เลย นอกจากนั้นในช่องทาง LINE : @LHMmotor หากต้องการไปหน้าร้านก็มี 14 สาขา 4 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร

อยากทิ้งท้ายว่า โล้วเฮงหมงมีพิพิธภัณฑ์รถจักรยานยนต์อยู่ที่สำนักงานใหญ่ FB : พิพิธภัณฑ์รถจักรยานยนต์โล้วเฮงหมง มีรถตั้งแต่รุ่นแรกที่เริ่มขาย ตอนนี้ในพิพิธภัณฑ์มีราว 300 กว่าคัน

การให้คนได้ทำรถ ได้โชว์ ได้ขับ คือสิ่งที่คุณพ่อผมวางแนวทางเอาไว้

นี่คือความสุขของการเป็นดีลเลอร์ขายมอเตอร์ไซค์ และยังเน้นเสมอว่า รถเก่าในพิพิธภัณฑ์มีคุณค่าถ้าทำให้มันมีคุณค่า เราจึงสร้างพิพิธภัณฑ์นี้ขึ้นมา