โพเมโล่ เผยโควิดดันแฟชั่นออนไลน์ทั่วเอเชียโต 22% ผุดบริการใหม่ “Prism.” โซลูชั่นใหม่ที่นำข้อมูลที่มีมาต่อยอด ช่วยเหลือแบรนด์ในทุกมิติ ตั้งแต่การออกแบบ คาดการณ์ยอดขาย สื่อสารการตลาดจนปิดการขาย พร้อมระดมทุนต่อ แต่ยังไม่ฟันธงว่าจะระดมทุนเพิ่ม หรือนำ โพเมโล่ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
วันที่ 24 มิถุนายน 2564 นายอริยะ พนมยงค์ คณะกรรมการ Pomelo Fashion กล่าวว่า ช่วงวิกฤตโควิดทำให้ตลาดแฟชั่นออนไลน์ยังคงเติบโต โดยข้อมูลจาก Google และ Temasek พบว่าตลาดแฟชั่นออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตกว่า 22% หรือคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหลังจากโพเมโล่ (Pomelo) เปิดตัวตั้งแต่ปี 2556 ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นผู้นำด้านแฟชั่นในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ล่าสุดได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการนำข้อมูล ความสามารถทางเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญทางการตลาดที่โพเมโล่มี มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่แบรนด์ต่าง ๆ ด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ Prism. แพลตฟอร์มแบรนด์โซลูชั่นที่ช่วยแบรนด์ ตั้งแต่การวางแผนด้านการออกแบบ การสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายจนถึงปิดการขาย ซึ่งบริการ Prism. จะเข้ามาช่วยปิดจุดอ่อนในการทำตลาดให้แก่แบรนด์และยังถือเป็นอนาคตของโพเมโล่ด้วย
สำหรับแนวทางการระดมทุนของโพเมโล่นั้น นายอริยะกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ ว่าจะเปิดระดมทุนเพิ่ม หรือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้งว่า รูปแบบไหนจะเหมาะสมกับช่วงจังหวะไหน ซึ่งในฐานะบริษัทTech ก็ต้องมีการระดมแน่นอน เพื่อนำเงินที่ได้มาลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างการเติบโตต่อ
นายเดวิด จู ประธานกรรมการบริหาร Pomelo Fashion ผู้บริหารแพลตฟอร์มแฟชั่น โพเมโล่ (Pomelo) กล่าววว่า ล่าสุดโพเมโล่ ได้เปิดตัวบริการ Prism. แบรนด์โซลูชั่นครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Prism. ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อสนับสนุนการเติบโตของแบรนด์ ด้วยความสามารถของ โพเมโล่ ทั้งด้านสินค้า การตลาด ประสบการณ์ และข้อมูลที่ได้จากผู้บริโภคกว่า 40 ล้านคนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ มีกลยุทธ์ที่พร้อมจะสร้างเติบโตไปด้วยกัน โดยขณะนี้เริ่มให้บริการแก่แบรนด์แล้ว เช่น Urban Revivo , Levi’s เป็นต้น
“ความต้องการของ Prism. ไม่ใช่แค่เรื่องของข้อมูล แต่ต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์อันเข้มแข็งกับผู้ร่วมงานด้วย โดยมอบสิ่งที่เหมาะกับแบรนด์ที่สุด เพื่อสร้างความโดดเด่นให้มีผลต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นและเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น”