เบ็นคิว เปิดตัวจออัจฉริยะรุ่นใหม่ รับเทรนด์เรียนออนไลน์บูม

เบ็นคิว เผย ตลาดโปรเจ็กเตอร์ทั่วโลกหดตัว เร่งปรับกลยุทธ์ หาฐานลูกค้าใหม่ เจาะกลุ่มโลจิสติกส์ ประกัน และส่งออก พร้อมเปิดตัวจอทัชสกรีนรุ่นใหม่ รับเทรนด์เรียนออนไลน์ คาดครึ่งปีหลัง ได้รับอานิสงส์ทรานส์ฟอร์มของภาครัฐ ตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 25% 

วันที่ 24 มิถุนายน 2564 นายวัชรพงษ์ วงษ์มา รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2563 ตลาดจอภาพทั่วโลกหดตัวลง มีจำนวนเครื่องในท้องตลาดประมาณ 50,400 เครื่อง จากการที่ภาครัฐและเอกชนชะลอการจัดซื้อ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 เบ็นคิวจึงได้ปรับกลยุทธ์ เปลี่ยนฐานลูกค้า หันไปเจาะกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ประกันภัย และส่งออกอาหารแช่แข็ง รวมถึงปรับโมเดลธุรกิจไปยังบริการเช่าซื้อ ซึ่งทำให้ปีที่ผ่านรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่อันดับ 4 หรือคิดเป็น 7.64% 

ขณะเดียวกันยังขยายไปยังตลาด Smart Projector ออกโปรเจ็กเตอร์รุ่นใหม่ E600-Series รองรับการใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ Android, WiFi และ  Bluetooth เข้าไปในตัวเครื่อง เจาะกลุ่มองค์กรที่ใช้ห้องประชุมขนาดใหญ่ โดยปีที่ผ่านมาจำหน่ายสินค้าในกลุ่มนี้ไปแล้วกว่า 408 เครื่อง นอกจากนี้ยังโฟกัสสินค้ากลุ่ม Laser TV และ 4K สำหรับกิจกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ภายในบ้านด้วย 

ส่วนสินค้ากลุ่มจอภาพทัชสกรีน หรือ Interactive Flat Panel (IFP) ก็เติบโตมากกว่า 400% จากการเจาะตลาดภาคการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมหาวิทยาลัย ทำให้ในไตรมาสแรกของปี เบ็นคิวมีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 18.5%  ในตลาดนี้ ล่าสุดออก “Blended Learning Solution” เพื่อตอบโจทย์สถาบันการศึกษา ลดความแออัดในห้องเรียน เชื่อมการเรียนในห้องเรียนและออนไลน์เข้าด้วยกัน โดยครูจะทำการสอนผ่านจอภาพ IFP ได้แบบเรียลไทม์ ด้วยโซลูชั่น 50:50 Distance Learning ทำให้นักเรียนทั้งจากที่บ้านและห้องเรียน เห็นเนื้อหาเดียวกัน และสามารถสื่อสารกับครูและเพื่อนร่วมชั้นได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้เบ็นคิว ยังได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ จอภาพอัจฉริยะ IFP รุ่น RE9802 ขนาดหน้าจอ 98 นิ้ว ราคา 499,000 บาท และ รุ่น CP6501K ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว ราคา 299,000 บาท เจาะกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ ภาคเอกชน และหน่วยงานรัฐ


“ตลาดจอ IFP เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง มีผู้เล่นในตลาดประมาณ 18 แบรนด์ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะโตอย่างน้อย 25% อย่างไรก็ตามเบ็นคิวตั้งเป้าที่จะเติบโตไม่ต่ำกว่าเทรนด์ของตลาดเช่นกัน และคาดว่าในภายในไตรมาส 3 ลูกค้าภาครัฐจะกลายเป็นตลาดหลัก เพราะเริ่มทยอยจัดซื้อจัดจ้างสินค้าดิจิทัลรับกับการทรานส์ฟอร์มองค์กร”