ปะทุสงครามเทคโนโลยีอวกาศ

ท่องอวกาศ
คอลัมน์ TechTimes
มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

สมัยก่อนเวลาเศรษฐีอยากอวดรวยถ้าไม่ฉีกแบงก์โชว์ดื้อ ๆ ก็อวดว่าใครจะมีรถสปอร์ต คฤหาสน์มากกว่ากัน แต่สมัยนี้ใครขืนทำแบบนี้ถือว่าหลงยุค เพราะเดี๋ยวนี้มหาเศรษฐีเขาแข่งกันบินไปเที่ยวอวกาศกันแล้ว

แต่เนื่องจากเป็นการประชันขันแข่งที่ใช้เงินมหาศาล แถมมีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเทคโนโลยีด้วย ดังนั้น ผู้เล่นเลยมีจำกัดอยู่แค่ 3 คน ได้แก่ เจฟฟ์ เบซอส (เจ้าพ่อ Amazon) อีลอน มัสก์ (เจ้าของ Tesla) และริชาร์ด แบรนสัน (เจ้าของ Virgin Group) ซึ่งมีทรัพย์สินรวมกันเหนาะ ๆ กว่า 4 แสนล้านเหรียญ หรือเท่ากับ GDP ของไอร์แลนด์ทั้งประเทศ

วงการสื่อขนานนามอภิมหาเศรษฐีทั้ง 3 ว่าเป็น “space barons” หรือผู้มีอิทธิพลในการพัฒนาธุรกิจอวกาศตลอด2 ทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Blue Origin ของเบซอส SpaceX ของมัสก์

หรือ Virgin Galactic ของแบรนสัน ล้วนมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ จนทำให้การแสดงแสนยานุภาพทางอวกาศเปลี่ยนมาอยู่ในมือของเอกชนแทนที่จะเป็นการประลองกำลังระหว่างประเทศมหาอำนาจเช่นในอดีต

การแข่งขันของทั้ง 3 คนมาถึงจุดพีกในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อแบรนสันกลายเป็นคนแรกที่ออกท่องอวกาศได้สำเร็จ นำหน้าเบซอสไปเพียงไม่กี่วัน (เบซอสมีแผนจะออกท่องอวกาศในวันที่ 20 ก.ค.)

แต่จะตัดสินว่าใครเป็นผู้กำชัยชนะที่แท้จริงในสงครามธุรกิจอวกาศนั้นมองได้หลายมุม ไม่จำกัดเพียงแค่ว่าใครเป็นคนแรกที่พาตัวเองขึ้นไปอวกาศได้ก่อนกัน

อีลอน มัสก์

REUTERS/Lucy Nicholson/File Photo

หากวัดกันที่ความสามารถของจรวดและยานอวกาศที่สามารถบินขึ้นสู่วงโคจรโลกได้ต้องยกให้ SpaceX เพราะจรวดนำส่งของ SpaceX สามารถขนส่งดาวเทียมและสิ่งของอื่น ๆ

ขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นเจ้าแรก แถมยังผลิตยานอวกาศที่พานักบินอวกาศไปส่งที่สถานีอวกาศนานาชาติ ได้ด้วย ทำให้ได้รับความไว้ใจจาก NASA และกระทรวงกลาโหมของสหรัฐในการเป็นผู้ร่วมสัญญาในหลายโครงการ

ตอนนี้บริษัทยังมีโครงการพัฒนายานอวกาศที่สามารถนำมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์และดาวอังคาร นอกจากนี้ SpaceX ถือเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์ และเป็นคน disrupt วงการอวกาศอย่างแท้จริง เพราะทำให้วงการนี้มีสีสันน่าติดตาม

เจฟฟ์ เบซอส

แต่ถ้าวัดกันที่ความอึดและความใส่ใจในรายละเอียดก็ต้องยกให้ Blue Origin เบซอสก่อตั้งบริษัทนี้ในปี 2002 ก่อนหน้า SpaceX ถึง 2 ปี แต่ Blue Originมีสโลแกนว่า “ช้า ๆ ได้พร้าสองเล่มงาม”ขนาดยกให้ “เต่า”

จากนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าเป็นมาสคอตประจำบริษัท เบซอสบอกว่า “ช้า คือ ความราบรื่น และความราบรื่น คือ ความรวดเร็ว” ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นการเหน็บ SpaceX ที่รีบเร่งผลักดันโปรเจ็กต์ผ่านการลองผิดลองถูก ในขณะที่ Blue Origin เน้นช้าแต่ชัวร์

แม้ที่ผ่านมา Blue Origin ค่อนข้างจะปิดแผนงานเป็นความลับ แต่ตอนนี้ก็เป็นที่แจ่มชัดแล้วว่าเป้าหมายคือการสร้างอาณาจักรใหม่นอกโลกเพื่อรองรับมวลมนุษยชาติในวันที่โลกใบนี้ประสบวิกฤตพลังงาน

เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น Blue Origin เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างจรวดและยานอวกาศที่มีราคาถูกลง ทำให้การสร้างที่อยู่อาศัยใหม่นอกโลกเป็นความจริงขึ้นได้โดยมี New Shepard จรวดไร้คนขับ

เป็นตัวนำร่องไปสู่การพัฒนายานลงจอดบนดวงจันทร์ต่อไป ยิ่งกว่านั้นบริษัทมีแผนนำ New Shepard มาให้บริการท่องเที่ยวอวกาศเชิงพาณิชย์โดยเจาะกลุ่มเศรษฐีกระเป๋าตุงที่รักความตื่นเต้นโดยมีเบซอสกับผู้โดยสารอีก 3 คน

เป็นกลุ่มแรกที่จะได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์เดินทางท่องอวกาศเป็นเวลา 11 นาทีกับ New Shepard โดยเป็น suborbital space tourism ที่มีระดับความสูงต่ำกว่ายานอวกาศที่สามารถบินโคจรรอบโลกได้ โดย Blue Origin มีแผนจะพัฒนาจรวดลำใหม่ชื่อ New Glenn ที่โคจรรอบโลกได้ต่อไป

ริชาร์ด แบรนสัน

แม้จะรวยสู้เบซอส (มหาเศรษฐีอันดับ 1) และมัสก์ (มหาเศรษฐีอันดับ 2) ไม่ได้ แต่เรื่องลีลาและชั้นเชิงในการทำมาร์เก็ตติ้งและชิงพื้นที่ข่าวต้องยกให้แบรนสัน เจ้าของอาณาจักร Virgin คนนี้

เพราะพาตัวเองไปท่องอวกาศได้ก่อนเพื่อน (ท่ามกลางเสียงเมาท์มอยว่าทีมงานของแบรนสันต้องโหมงานอย่างหนักเพื่อให้เจ้านายสามารถตัดหน้าไปเที่ยวอวกาศได้ก่อนเบซอส)

นอกจากชิงบินตัดหน้าแล้ว แบรนสันยังข่มเบซอสเรื่องที่ Virgin Galactic สามารถส่งคนขึ้นอวกาศได้จริงในขณะที่เที่ยวบินทดสอบที่ผ่านมาของ Blue Origin นั้นเป็นไปแบบไร้คนขับและผู้โดยสาร

นอกจากนี้ Virgin Galactic ยังมีเป้าหมายในการสร้างเครื่องบินเจ็ตที่บินในระดับ suborbital เพื่อให้การเดินทางข้ามเมืองเป็นไปด้วยความเร็วขั้นสุดด้วย

เอาเป็นว่าการขับเคี่ยวระหว่าง space barons ทั้ง 3 นั้นสนุกสนานน่าติดตามยิ่งนัก เพราะนอกจากจะแข่งกันพัฒนาเทคโนโลยีแล้ว ยังมีหน้าตา ชื่อเสียง และอีโก้ของตัวเองเป็นเดิมพันด้วย

ทำให้เชื่อได้เลยว่าการแข่งขันจะยิ่งดุเดือดเลือดพล่านยิ่งขึ้นไปอีก เพราะงานนี้เสียเงินไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด