เอไอเอส ปรับลดประมาณการรายได้ปี 64 หลังโควิดลากยาว

เอไอเอส ปรับลดประมาณการรายได้ปี 64 หลังโควิดลากยาว เผยรายได้รวมไตรมาส 2 อยู่ที่ 42,757 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก มีรายได้รวม 88,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวปีก่อน

วันที่ 3 สิงหาคม 2564  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้แจ้งผลดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นและคาดว่าจะยืดเยื้อ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้และยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงประเด็นด้านการจัดหาวัคซีน ดังนั้น เอไอเอส จึงปรับลดคาดการณ์รายได้ของปี 2564 ทั้งปีเป็นทรงตัว หรือ อาจลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม เอไอเอสยังคงนโยบายการลงทุนโครงข่ายในงบฯ 25,000-30,000 ล้านบาทตามแผนเดิม เพื่อเดินหน้ารักษาความเป็นผู้นำในระยะกลางทั้งในด้านคุณภาพโครงข่ายและสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า

สำหรับไตรมาส 2 ปีนี้ มีรายได้รวม 42,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายเครื่องโทรศัพท์ที่สูงขึ้น และมีกำไรสุทธิ 7,041 ล้านบาท โดยในส่วนของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 43.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 466,600 เลขหมาย โดยลูกค้ามีแนวโน้มจะเปลี่ยนบริการจากระบบเติมเงินเป็นรายเดือน ทำให้ฐานลูกค้าระบบรายเดือนโตขึ้น 3.3% จากไตรมาสก่อน และมีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) อยู่ที่ 471 บาท ลดลง 1.8% ส่วนลูกค้าระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น 114,900 ราย จากลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นชดเชยกับการลดลงของการใช้งานซิมเฉพาะกลุ่มที่สูงขึ้นมาในไตรมาสก่อน ในส่วนของลูกค้าที่สมัครใช้บริการ 5G มีจำนวนรวม 1 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 9.6% ของฐานลูกค้าระบบรายเดือน 

ขณะที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตบ้านยังเติบโตขึ้น จากกระแสทำงานและเรียนที่บ้านท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด โดยเอไอเอสไฟเบอร์มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 104,000 รายในไตรมาสนี้ แต่ ARPU ลดลง 0.9% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 458 บาท เนื่องจากระดับราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นยังคงอยู่ที่ 399 บาทต่อเดือน

ในส่วนภาพรวม 6 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2564) เอไอเอสมีรายได้รวม 88,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 13,685 ล้านบาท ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส  กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในการรับมืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้มีความรุนแรงและขยายวงกว้างด้วยความรวดเร็ว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร และพนักงาน โดยในไตรมาสที่ 2/2564 เรายังคงรักษาระดับของผลประกอบการ

แม้ต้องรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด AIS มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพทั้งการขยายโครงข่าย 5G อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพโครงข่ายด้วยเทคโนโลยีใหม่ จะช่วยสนับสนุนการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการทำงานและเรียนจากที่บ้าน รวมถึงเสริมการขายและบริการผ่าน Remote agent และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ายังได้รับบริการในขณะล็อกดาวน์ สิ่งสำคัญขององค์กรในการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องในภาวะวิกฤตและเกิดความยั่งยืน คือ การบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและรักษาสถานะทางการเงินให้มีความมั่นคงรองรับวิกฤตและความท้าทาย