3 ยักษ์โลจิสติกส์ “ไปรษณีย์ไทย-แฟลชฯ-JWD” เซ็นเอ็มโอยูตั้งบริษัทร่วมทุนเปิดตัวบริการใหม่ “ฟิ้วซ์ โพสต์” เจาะตลาดขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ชิงเค้ก 3.4 หมื่นล้านบาท ดีเดย์บริการ 1 ก.ย.นี้ คาดต้นปี 2564 ปิดดีลตั้งบริษัทร่วมทุนพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจคลุมทั่วอาเซียน
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์โดยรวมมีการเติบโตจากการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
รวมถึงความต้องการซื้อสินค้าและอาหารสดต่าง ๆ ทำให้ธุรกิจขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (cold chain express) หรือขนส่งเย็น ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีการเติบโตเฉลี่ย 8-10% ต่อปี คิดเป็นมูลค่ารวม 34,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนประมาณ 5% ในธุรกิจโลจิสติกส์โดยรวม
จากแนวโน้มดังกล่าวไปรษณีย์ไทยจึงร่วมกับเจดับเบิ้ลยูดีฯ และแฟลชฯเปิดตัวบริการใหม่ในชื่อ “ฟิ้วซ์ โพสต์” (FUZE POST) เป็นบริการขนส่งด่วนแบบเย็น ภายใต้แนวคิด “ส่งเย็น ส่งเร็ว ส่งฟิ้วซ์” ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป
โดยในช่วงเปิดบริการระยะแรกจะเป็นลักษณะของความร่วมมือทางธุรกิจในลักษณะ “เอ็มโอยู” ก่อนที่จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะมีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ในช่วงเดือน ม.ค.ปีหน้า ส่วนการให้บริการจะเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป
เริ่มจากพื้นที่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และบางจังหวัด ได้แก่ หนองคาย เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตราด และบางละมุง ชลบุรี โดยลูกค้าเรียกใช้บริการผ่านเว็บไซต์ www.fuzepost.co.th จะมีพนักงานไปรับสินค้าจากบ้าน เฟสต่อไปเมื่อตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วจะเปิดจุดรับฝาก (drop off) และขยายเส้นทางขนส่งไปจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงขยายไปในประเทศอาเซียน เช่น เมียนมา ลาว และกัมพูชา เป็นต้น
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการดึงศักยภาพของแต่ละบริษัทมารวมกัน ที่เปิดบริการในรูปแบบการเซ็นเอ็มโอยูเลยเพราะต้องการเดินหน้าธุรกิจทันที เนื่องจากตลาดกำลังเติบโตและเราก็ตั้งใจที่จะสนับสนุนสังคมไทย ผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทั้งภาคการเกษตร ประมง และภาคส่วนต่าง ๆ ที่ต้องใช้การขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ”
“สิ่งสำคัญคือ ทำอย่างไรจะมีบริการครบวงจรด้านควบคุมอุณหภูมิเพื่อช่วยให้ทุกภาคเดินหน้าธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งเราแข็งแกร่งด้านระบบการขนส่งที่ครอบคลุมทั้งประเทศ มีฟรีซที่ควบคุมอุณหภูมิ ขณะที่เจดับเบิ้ลยูดีฯมีคลังสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิ ส่วนแฟลชฯก็มีเทคโนโลยี เมื่อนำมารวมกันก็น่าจะผลักดันให้ฟิ้วซ์ โพสต์เป็นผู้นำในตลาดขนส่งเย็นได้”
ด้าน นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ทั้ง 3 บริษัทแบ่งงานกันชัด โดยไปรษณีย์ไทยจะดูแลเรื่องการขนส่ง ส่วน JWD ดูแลคลังห้องเย็น ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการขนส่ง 1 แสนตันทั่วประเทศ
ขณะที่แฟลชฯดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการทำตลาด คาดว่าจะทำให้ฟิ้วซ์ โพสต์เจาะเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มทั้งพ่อค้าแม่ค้าออฟไลน์และออนไลน์ ผู้บริโภคทั่วไป และองค์กรต่าง ๆ ได้
“ปัจจุบันตลาดขนส่งเย็นค่อนข้างเปิดกว้าง มีผู้เล่นแค่ 2-3 ราย จึงเป็นโอกาสในการเจาะเข้ายึดตลาดนี้ด้วยศักยภาพที่ทั้ง 3 บริษัทมีการผลักดันให้ฟิ้วซ์ โพสต์เป็นผู้นำตลาดขนส่งเย็นได้อย่างรวดเร็ว”
นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจขนส่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แต่จะทำได้ต้องใช้เวลาในการสร้างสิ่งต่าง ๆ แต่ความร่วมมือกันจะทำให้ใช้ระยะเวลาสั้นที่สุดและลดต้นทุนได้มากที่สุด โดยเฉพาะในธุรกิจขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิที่ต้องมีรถยนต์ควบคุมอุณหภูมิในการส่ง โดยบริษัทจะให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
