GoDaddy สยายปีกบุกไทยอาสาช่วย SME โกดิจิทัล

GoDaddy ยักษ์โซลูชั่นแพลตฟอร์มสัญชาติอเมริกันขยายตลาดในไทยเจาะลูกค้า “เอสเอ็มอี”ชูจุดแข็งบริการครบวงจร “ใช้ง่าย-ราคาไม่แรง”เพิ่มทีมซัพพอร์ตคนไทยดูแลลูกค้ากว่า6 หมื่นราย ลุยสร้างแบรนด์เพิ่มสปีดขยายฐานลูกค้ารับช้อปปิ้งออนไลน์บูม

วันที่ 9 กันยายน 2564 นางสาวสายทิพย์ (นิกกี้) เชวงทรัพย์ ผู้อำนายการฝ่ายการตลาด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ GoDaddy กล่าวว่า แม้ GoDaddy จะเป็นผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมนรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีบริการครบวงจรในการช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัลได้ง่าย ด้วยต้นทุนที่ไม่สูงมาก โดยให้บริการอยู่ใน 100 กว่าประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย มีลูกค้ากว่า 60,000 รายแล้ว แต่เพิ่งขยายทีมงานคนไทยคอยให้คำแนะนำและให้บริการเป็นภาษาไทย เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขยายการตลาด และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถปรับธุรกิจเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และการเติบโตของตลาดออนไลน์ช้อปปิ้งผลักดันให้ธุรกิจทุกขนาดต่างพลิกโฉมเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

“จุดเด่นของเรา คือการมีบริการครบจบในที่เดียว ตั้งแต่การจดโดเมนเนม, โฮสติ้ง ทำเว็บไซต์ และการตลาดเพื่อช่วยเอสเอ็มอีให้ทำธุรกิจบนแพล็ตฟอร์มดิจิทัลได้ง่าย ด้วยต้นทุนที่ไม่สูง แต่ต้องยอมรับว่าตลาดไทย ไม่ใช่ตลาดดีไอวายต่างจากในอเมริกาหรือยุโรป อีกทั้งคนส่วนใหญ่ยังคิดว่าการจะทำเว็บไซต์ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค และเป็นเรื่องยาก เราจึงต้องเข้ามาสร้างความเข้าใจตรงนี้ให้ตลาด”

โดยมีแผนในการทำโฆษณา และประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ และการบริการต่างๆ  ของ GoDaddy รวมถึงการจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เป็นการตอกย้ำภารกิจในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย และการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น 

“กลุ่มลูกค้าเราคือทุกคนที่อยากสร้างแบรนด์ สร้างธุรกิจบนออนไลน์ คือ 1 ลูกค้าที่มีสินค้าที่ต้องการจะขาย 2 กลุ่มที่มีบริการระดับมืออาชีพ อาจเป็นนักบัญชี มัณฑนากร สถาปนิก เป็นต้น กลุ่มสาม คือต้องการทำหน้าร้านออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ และกำลังมองหาโซลูกชั่นในการทำเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับเปย์เม้นต์เกตเวอย์ และบริการจัดการออร์เดอร์ได้”

ผู้บริหาร GoDaddy กล่าวว่า GoDaddy ก่อตั้งธุรกิจตั้งแต่ปี 1997 ที่อเมริกาในชื่อ JoMax ก่อนเปลี่ยนเป็น “GoDaddy”ในปี 1999 และได้รับการรับรองจากองค์กรความร่วมมือด้านการจัดสรรชื่อและหมายเลขทางอินเทอร์เน็ต (ICANN) ปีถัดมา ซึ่งธุรกิจก็เติบโตต่อเนื่อง จากปี 2005 มีลูกค้า 2 ล้านคน 10 ล้านโดเมนเนม มาในปี 2009 มีรายได้กว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ  ก่อนจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ในปี 2015 และขยายธุรกิจไปใน 56 ประเทศ และ 11 ประเทศในเอเชีย ในปีถัดมา และในปี 2018 มีรายได้ทะลุ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นผู้ให้บริการอันดับ 1 ของโลกด้านบริการ WordPress โฮสติ้ง 


“ในเอเชีย เราทำตลาดอยู่ใน 11 ประเทศ รวมทั้งไทย แต่ที่ผ่านมายังไม่มีเว็บไซต์ภาษาไทย และทีมดูแลลูกค้าเพื่อให้บริการภาษาไทยกระทั่งในปีนี้ เพราะมองเห็นโอกาสในการขยายตลาด และเห็นว่าคนไทยมีภาษาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจึงต้องการสื่อสารและเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น”

 สำหรับผลิตภัณฑ์ และบริการ ของ GoDaddy  มีครบวงจรแบบวันสต็อปเซอร์วิส ตั้งแต่ 1.การสร้างเว็บไซต์ และการตลาด 2. จดโดเมนเนม 3.บริการอีเมล์ตรงกับชื่อโดเมน 4.เวิร์ดเพลสโฮสติ้ง และ5. บริการดูแลลูกค้าGoDaddy Guide 

จากทีมงานมืออาชีพคนไทยที่คอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนลูกค้าแบบตัวต่อตัว และตอบคำถามผ่านโทรศัพท์และแชท เป็นต้น

“เราจะมีการจัดสัมมนาออนไลน์ หรือเว็บบินาร์แนะนำลูกค้าเป็นภาษาไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแนวทางและให้ความรู้กับผู้ประกอบการ และเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในการสร้างธุรกิจบนโลกดิจิทัลให้แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จ ด้วย

ประสบการณ์ยาวนานในการสนับสนุนผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลกด้วยโซลูชั่นเครื่องมือออนไลน์ที่ครบวงจร” 

ปัจจุบัน GoDaddy มีลูกค้ากว่า 20 ล้านราย และมีชื่อโดเมนกว่า 82 ล้านชื่อในมือ ดำเนินธุรกิจในกว่า 50 ตลาดทั่วโลก มีลูกค้าอยู่ครอบคลุมในกว่า 100 ประเทศ โดยในปี 2563 ที่ผ่านมามียอดลูกค้าใหม่เกือบ 1.4 ล้านคน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตของจำนวนลูกค้าสุทธิประจำปีสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา