“ซัมซุง” เผยที่มาความปัง “สมาร์ทโฟนจอพับ” ดึงลูกค้าคู่แข่งปันใจถึง 30%

“ซัมซุง” โชว์ยอดจอง Galaxy Z Fold3-Flip3 5G ปังทั่วโลก ขณะที่ในไทยโตทะลุเป้าสวนวิกฤตโควิด ย้ำ “นวัตกรรม”ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค เสริมด้วย “ราคาที่เข้าถึงง่าย” เคล็บลับดึงลูกค้าคู่แข่งปันใจมาได้ถึง 30% ทั้งปรับกลยุทธ์การตลาด ดัน ‘คัลเจอร์เรอร์ คูล’เข้าถึงลูกค้าวงกว้าง 

วันที่ 14 กันยายน 2564 นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กรกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ 2 รุ่นใหม่ คือ Galaxy Z Fold3 และFlip3 5G ออกสู่ตลาด ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างมาก ทั้งในตลาดโลก และโดยเฉพาะในประเทศไทยด้วยยอดจองสูงกว่ารุ่นหน้านี้ถึง 8 เท่า เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นเท่าตัว 

ยอดจองในไทยสุดปังขึ้นท้อปทรี

ขณะที่ตัวเลขลูกค้าใหม่จากแบรนด์อื่นก็เพิ่มขึ้นด้วย จาก 20% ในรุ่นก่อนหน้า เพิ่มเป็น 30% ซึ่งในเชิงการตลาดถือวเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก และสะท้อนให้เห็นถึงการมี “นวัตกรรม”ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดจึงตั้งเป้าด้วยว่าจะผลักดันให้สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้กลายเป็นสมาร์ทโฟนกระแสหลักมากขึ้นในอนาคตด้วย

“ในไทยถ้ามองในเชิงตัวเลข ตั้งแต่เปิดจองมา สูงกว่าปีที่แล้ว 8 เท่า เราเองค่อนข้างประหลาดใจในเชิงที่ดีใจ เพราะตั้งเป้าไว้ 4 เท่า เทียบกับปีที่แล้วแต่ทำได้เกินไปเยอมาก เทียบกับประเทศอื่นๆ ในเซาท์อีสเอเชีย และโอเชเนีย ไทยอยู่ในท็อปทรีในแง่ยอดจอง ทำให้สร้างปัญหาเล็ก ๆ หรือเรียกได้ว่าเป็น Happy Problem ที่บางสีบางรุ่นเริ่มขาดตลาด”

จากการสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยในครึ่งปีแรก 2564 พบว่าตลาดรวมอยู่ในภาวะทรงตัว ขณะที่ตัวเลขของสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมี่ยมสวนทางตลาดด้วยอัตราการเติบโตในเชิงมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 11% และในเชิงปริมาณเพิ่มขึ้น 1% เทียบปีก่อนหน้า สะท้อนว่าผู้บริโภคชาวไทยพร้อมซื้อผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมหากมีนวัตกรรมที่ดี และตรงความต้องการ

“นวัตกรรม” ตอบโจทย์ดีมานด์

นายสิทธิโชคกล่าวว่าการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และเทรนด์การใช้สมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนแปลงไปในครึ่งทศวรรษที่ผ่านมาเป็นที่มาของการบุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ของซัมซุง เริ่มจากการเปิดตัว Galaxy Fold ในปี 2562 เป็นรุ่นแรก และเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนเซกเมนต์ใหม่

สอดรับกับการคาดการณ์ของบริษัทวิจัยข้อมูลที่ประเมินตัวเลขตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าภายในสิ้นปีนี้เทียบปีที่ผ่านมา หรือจะมีการเติบโตต่อปี  (Compound Annual Growth Rate: CAGR) ราว 113% พร้อมกับคาดการณ์ยอดขายทั่วโลกว่าจะเพิ่มเป็น 64 ล้านเครื่องภายในปี 2568

“เราเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ 3 ปีซ้อน จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดให้ผู้บริโภคผ่านฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของลูกค้าได้จริง ทำให้สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันล่าสุด Galaxy Z Fold3 และFlip3 5G ได้รับการตอบรับที่ดีมากทั่วโลก รวมถึงในไทยเทียบรุ่นก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้”

“ราคาเข้าถึงง่าย” ดึงลูกค้าคู่แข่งปันใจ

และปีนี้เป็นปีแรกที่ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้พร้อมกัน 2 รุ่น และเปลี่ยนกลยุทธ์การทำการตลาด และการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์จากเดิมจัดไว้ในหมวดลักซ์ชัวรี เซกเมนต์ สื่อสารกับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม มาเป็นการทำการตลาดในรูปแบบ ‘คัลเจอร์เรอร์ คูล’ สร้างความใกล้ชิดกับผู้บริโภคในวงกว้าง โดยดึงศิลปินไอดอลเกาหลีวง BTS เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ รวมถึงมีความร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ในไทยในการถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานในแบบตนเอง รวมเข้ากับการทำการตลาด และการสื่อสารรูปแบบใหม่ผ่านทางช่องทางออนไลน์ และกลยุทธ์ด้าน

“ราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น” พร้อมแคมเปญนำเครื่องเก่ามาเป็นส่วนลดแลกซื้อเครื่องใหม่ ทำให้ Galaxy Z Fold3 และ Flip3 5G ดึงดูดลูกค้าใหม่ที่ไม่ใช่ลูกค้าซัมซุงเดิมได้มากกว่ารุ่นที่ผ่านมา ด้วยอัตราการเปลี่ยนแบรนด์ (Switching) มาใช้ซัมซุงเพิ่มขึ้น 10% จากโดยปกติที่ 20% เป็น 30%

“ความสำเร็จด้วยยอดสั่งจองล่วงหน้าของ Galaxy Z Fold3 และ Flip3 5G ที่เกินเป้าหมาย ทำให้ซัมซุงประเทศไทย วางแผนจัดการเเร่งด่วน โดยให้ลูกค้าจองสินค้าล่วงหน้า ผ่าน Samsung.com และ Samsung Experience Store อีกครั้ง ตั้งแต่ 15 กันยายนเป็นต้นไป คาดว่าจะส่งมอบสินค้าล็อตแรกได้ในวันที่ 8 ต.ค.นี้”