การชำระเงินออนไลน์รูปแบบใหม่

คอลัมน์ Pawoot.com
คอลัมน์ Pawoot.com
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

ผมอยากแชร์เทคนิคการชำระเงินแบบใหม่ เชื่อว่าหลายท่านที่ทำการค้าขายออนไลน์อาจต้องนั่งทำทุกอย่าง

สำหรับคนที่ทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หากยังต้องรับเงินสดอยู่อาจทำให้ธุรกิจช้าเกินไป มาดูว่าถ้าอยากเปลี่ยนมาใช้วิธีอื่นที่ง่ายขึ้น เราทำอะไรได้บ้าง

ในฝั่ง payment automation เครื่องมือตัวไหนที่ทำให้การค้าออนไลน์สะดวก และตอบโจทย์ธุรกิจมากขึ้นปัจจุบันมีหลายรูปแบบ

เช่น 1.แบบ integrate เข้ากับเว็บไซต์ จะมี plug-in ที่ดาวน์โหลดมาเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ได้เลยโดยสมัครสมาชิก เช่น ของ PaySolution หากเขียนโปรแกรมเป็น หรือมีนักพัฒนาก็อ่านคู่มือเพื่อเชื่อมต่อได้

2.วิธีส่ง link ให้ลูกค้าเพื่อชำระเงิน แบบนี้ก็ง่ายมาก วิธีการคือแค่เข้ามาที่หน้าการชำระเงิน สร้างลิงก์ และส่งลิงก์ให้ลูกค้าให้กรอกข้อมูล ชื่อ เบอร์ โทร. อีเมล์ ข้อมูลสินค้า จำนวนเงิน

เมื่อกรอกครบถ้วน กดยอมรับก็เข้าสู่การชำระเงินได้ทันที จะใช้บัตรเครดิต เดบิต วอลเลต อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ชำระผ่านบิลที่จุดชำระ พร้อมเพย์ ฯลฯ หรือผ่อนจ่ายก็ได้

3.วิธีส่ง link ให้ลูกค้า โดยลูกค้าไม่ต้องกรอกราคาเอง ร้านค้าเป็นผู้กรอกข้อมูล ซึ่งลูกค้าจะไม่สามารถแก้ไขเองได้ เมื่อลูกค้ากดยอมรับก็จะเข้าไปที่หน้าชำระเงินได้ทันที

เมื่อมีการชำระเงินเข้ามาก็จะมีระบบหลังบ้านเข้าไปดูได้ว่ามีการชำระเงินเข้ามาหรือยัง

นี่คือระบบที่เรามีในปัจจุบัน ทำให้การจ่ายเงินเป็นเรื่องง่าย หากต้องการทำให้ automate มากขึ้น และเพื่อเอาข้อมูลที่มีในระบบหลังบ้านไปเชื่อมต่อกับทีมงาน เช่น ลูกค้าทักแชตมา

และเราต้องการได้ที่อยู่เพื่อจัดส่งสินค้า แต่ไม่อยากให้ลูกค้าพิมพ์ที่อยู่มาในแชต เราส่งฟอร์มไปให้ลูกค้ากรอกได้เลย ฟอร์มที่ส่ง ใช้ได้ทั้ง Google Forms หรือที่ดูดี มีดีไซน์ขึ้น อย่าง Typeform ก็ได้

Typeform สวยกว่า Google Forms และทำเป็น scenario ได้ด้วย

เมื่อเราส่งลิงก์ฟอร์มไปให้ลูกค้ากรอก และได้ข้อมูลกลับมา เรานำข้อมูลนี้ไปเชื่อมต่อกับ Google Sheet, Zapier, Slack, Google Analytics, Hubspot, Salesforce หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณมี

เมื่อถึงเวลาต้องชำระเงินก็ใช้ pay social เป็นช่องทางชำระเงินได้เช่นกัน มีทั้งแบบลิงก์สำหรับชำระเงิน และ QR code ของร้านค้า

เรานำระบบเพย์เมนต์ไปเชื่อมโยงกับระบบอื่น ๆ โดยใช้เครื่องมือที่เป็น middleware หรือซอฟต์แวร์กลางพวก cloud service ที่คนนิยมใช้ก็ Zapier จะเชื่อมต่อแต่ละแอป เช่น ตั้งค่าการรับเริ่มจาก Typeform เชื่อมมายัง Google Sheet ได้

ซึ่งเราจะสร้างข้อความจากข้อมูลที่ได้เพื่อเป็น payment link ได้เลย และส่งลิงก์ไปให้ลูกค้า อารมณ์เหมือนลูกค้าสั่งซื้อสินค้าปุ๊บ ก็จะได้ลิงก์เพื่อชำระเงินส่งไปทางอีเมล์ปั๊บ การเชื่อมต่อมาที่อีเมล์ เราเข้าไปทำการตั้งค่าได้ง่าย ๆ ข้อมูลต่าง ๆ ก็ดึงมาได้ตลอดเวลา

เป็นการนำเครื่องมือ cloud service มาร้อยเรียงกันให้เกิดความสะดวก แต่ปัญหาต่อมาคือจะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกค้าชำระเงินแล้ว สำหรับ PaySolution มีระบบหลังบ้านเข้าไปดูได้

แต่บางร้านค้าอาจบริหารจัดการเองผ่านตัวกลาง เช่น Google Sheet ฯลฯ อยู่แล้ว ก็ต้องไปดูที่ตรงนั้นก่อนเพื่อกระจายงานต่อ

วิธีเชื่อมต่อตัวกลางอย่าง Zapier จะมีตัวรับสัญญาณจากการส่งเป็นเว็บเรียกว่า webhook คอยส่งสัญญาณกลับไปว่าเกิดสัญญาณนี้ขึ้น ให้ทำอะไรต่อ เช่นมีคนชำระเงินมาก็จะส่งไปที่ webhook ว่า มีการชำระเงินกี่บาท อาจมีการตั้งค่าให้ส่งอีเมล์กลับไปหาลูกค้าอีกก็ได้

ข้อดี คือ ไม่ต้องมาทำทีละครั้ง เป็นการทำเทมเพลตไว้ส่งอัตโนมัติได้ PaySolution มีเครื่องมือที่เรียกว่า post back URL นำ webhook มาใส่ที่นี่ได้เลย จะมีการส่งพารามิเตอร์ที่ลูกค้าชำระเงินเข้ามา

ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขอ้างอิง ประเภทบัตร ประเภทการชำระ รายละเอียดสินค้า อีเมล์ลูกค้า จำนวนเงิน ฯลฯ ให้ยิง webhook กลับไปที่ Zapier อีกที

ข้อดีอีกอย่างที่สำคัญ คือ หากร้านค้าต้องการใช้ข้อมูลใดก็นำไปใช้ได้ง่าย หรือต้องการให้มีการแจ้งเตือนเชื่อมต่อแอปอัพเดตแอป หรือโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ก็ทำได้ โดยแอปตัวกลางอย่าง Zapier

นี่คือการประสานเครื่องมือการชำระเงินกับเครื่องมือการทำ automation ทำให้เกิดรูปแบบการจ่ายเงินที่ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้คุณลองสมัครใช้ด้วยตนเอง ที่ www.paysolutions.asia


อย่างไรก็ตาม ต้องมีการส่งเอกสารยืนยันตัวตน เพราะ PaySolution อยู่ภายใต้การกำกับโดยแบงก์ชาติ และ ปปง.