โควิดดัน “คลาวด์” โตไม่หยุด “ออราเคิล” กางแผนปั๊มยอด

cloudคลาวด์ เก็บข้อมูล

“โควิด” หนุนการใช้จ่ายผ่าน “คลาวด์” โตไม่หยุด “ออราเคิล” กางแผนปี’65 เสริมทีม cloud engineering ประกบลูกค้าใกล้ชิดหวังตอบโจทย์ธุรกิจเปลี่ยนเร็ว ลุยขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ดันรายได้โตต่อเนื่อง

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2565 ของบริษัทยังเดินหน้าต่อยอดบริการที่มี และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ในทุกอุตสาหกรรมตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงกลุ่มเอสเอ็มอี พร้อมกับปรับรูปแบบการทำงานใหม่ในลักษณะ new oracle new normal ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยการตั้งทีม cloud engineering เข้าไปช่วยลูกค้าให้ขึ้นระบบได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ เพราะปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างเร็วทำให้ธุรกิจมีเวลาปรับตัวไม่มาก

“ก่อนเกิดโควิด ลูกค้าซื้อเฉพาะซอฟต์แวร์ของเราไปบริหารจัดการเอง แต่เมื่อเกิดโควิดทุกอย่างเปลี่ยนเร็วขึ้นรูปแบบการทำงานของเราจึงต้องเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ และความต้องการของลูกค้าด้วย โดยส่งทีม cloud engineering ไปประกบลูกค้าแต่ละรายเพื่อพัฒนาบริการ และโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจทำให้ธุรกิจของลูกค้าโตต่อเนื่อง แม้เราจะขยายทีมเพิ่มแต่ไม่ต้องเพิ่มทั้งหมด เพราะทำงานได้จากทุกที่ทั่วโลก ทีมออราเคิลอาจไม่ต้องเข้าพื้นที่ไปเจอลูกค้าโดยตรงแต่รีโมตเข้ามาซัพพอร์ต และแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วหรือดึงคนออราเคิลจากทั่วโลกมาช่วยแก้ปัญหา”

และด้วยแนวทางที่วางไว้ คาดว่าภาพรวมธุรกิจในปี 2565 จะยังเติบโตต่อเนื่องสำหรับผลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ลากยาวเกือบ 2 ปี ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กรเพื่อสร้างการเติบโตต่อ โดยระบบคลาวด์มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมาก เพราะการใช้แพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ในประเทศไทยอยู่บนระบบคลาวด์ทั้งหมดแล้ว ซึ่งข้อมูลจากการ์ทเนอร์ระบุว่าภาพรวมการใช้จ่ายด้านคลาวด์ในประเทศไทยปีนี้โตขึ้น 28-32% จากปีก่อน และคาดว่าปีหน้าจะโตไม่ต่ำกว่า 28-32% เช่นกัน

นายทวีศักดิ์กล่าวต่อว่า การปรับตัวองค์กรในช่วงโควิดที่ผ่านมา แบ่งเป็น 3 ส่วน กลุ่มแรกเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีกระแสเงินสดดี กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ไม่มีทางเลือก ต้องปรับตัวเองไปขายของบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น กลุ่มสุดท้ายทดลองแล้วประสบความสำเร็จจึงปรับตัวขึ้นมาบนออนไลน์ถาวร เช่น กลุ่มร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบโดยตรงปรับมาใช้ดีลิเวอรี่ เป็นต้น

สำหรับออราเคิลถือว่ามีบริการหลากหลาย ทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบ DIY, ฐานข้อมูลต่าง ๆ, บริการคลาวด์ เช่น ระบบ exadata cloud@customer แพลตฟอร์มที่ธุรกิจให้ความสำคัญและนำไปใช้เพื่อช่วยการทำงานบนระบบอัตโนมัติ มีการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วย ML (machine learning) และเร่งปรับขั้นตอนการทำงานเป็นระบบดิจิทัล exadata ไม่ว่าจะเป็นการใช้บน public cloud, cloud@customer และบนระบบองค์กร เป็นต้น ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชนหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ส่งผลให้ภาพรวมในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลข 3 หลัก