ดีป้าเปิดผลสำรวจดิจิทัลคอนเทนต์ไทย 3 ปี กลับมาโตยกแผง หลังคลายล็อกดาวน์

ดีป้าผนึกสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย แอนิเมชั่น ซอฟต์แวร์ไทย เปิดผลสำรวจอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ 3 ปีรวด คาดปีนี้มูลค่าตลาดจะกลับมาเติบโตในทุกกลุ่ม จากมาตรการคลายล็อกดาวน์ โรงหนังกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ คาดปี 2566 มูลค่าทะลุ 72,703 ล้านบาท จากตลาดเกมที่โตขึ้น

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ดีป้าร่วมกับสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) สมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (Bangkok ACM SIGGRAPH) และ บริษัท แอทไวส คอนซัลติ้ง จำกัด สำรวจข้อมูลและประเมินสถานภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ประจำปี 2563 และคาดการณ์แนวโน้ม 3 ปี ครอบคลุม 3 สาขาหลัก

ประกอบด้วย อุตสาหกรรมแอนิเมชั่น อุตสาหกรรมเกม และอุตสาหกรรมแคเร็กเตอร์ โดยภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยปี 2563 มีมูลค่า 39,332 ล้านบาท โต 26.55% จากปีก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากอุตสาหกรรมเกมที่มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 ที่โต 13.78% ส่วนปี 2562 โต 15.96% และปี 2563 โต 34.89% โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 34,316 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของผู้ให้บริการเกมบนแพลตฟอร์มโมบาย จากทั้ง iOS และ Android โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 21,049 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 61.34% ของมูลค่าอุตสาหกรรมเกมปี 2563

“ผลการสำรวจสถานภาพและคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ดีป้า ต้องเร่งทบทวนนโยบายและมาตรการสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและต่อยอดอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกมที่ควรมุ่งเน้นไปที่ผู้พัฒนาเกม (Game Developer) เพื่อตีตลาดเกมและเก็บส่วนแบ่งจากประเทศอื่น ๆ ที่เป็นประเทศผู้พัฒนาเกมชั้นนำของโลก”

ขณะที่อุตสาหกรรมแอนิเมชั่นกลับเติบโตลดลง 12.54% จากปีก่อน ทำให้มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3,056 ล้านบาท เนื่องจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับชมแอนิเมชั่นจากโทรทัศน์ผ่านช่องทางฟรีทีวีหรือเพย์ทีวีไปสู่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์จากต่างประเทศ อาทิ Netflix, Disney+ ฯลฯ และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้โรงภาพยนตร์ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ จึงส่งผลให้รายได้จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นลดลงถึง 50.51% เมื่อเทียบกับปี 2562

เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมแคแร็กเตอร์ที่เติบโตลดลง 8.67% หรือมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,960 ล้านบาท เนื่องจากผลพวงทางเศรษฐกิจของวิกฤตโควิด-19 ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของคนไทยหลายกลุ่มลดลง ทำให้การบริโภคสินค้าในกลุ่มแคเร็กเตอร์ที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และสินค้าเพื่อการสะสมมีปริมาณลดลง

สำหรับปีนี้คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอีก 3 ปี โดยคาดว่าปีนี้จะมีอยู่ที่ 49,649 ล้านบาท ส่วนปี 2565 จะมีมูลค่าอยู่ที่ 59,136 ล้านบาท และปี 2566 คาดว่ามูลค่าอุตสาหกรรมอาจพุ่งทะยานถึง 72,703 ล้านบาท จากตลาดเกมที่ประเมินว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ขณะเดียวกัน คาดว่าอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นจะกลับมาเติบโตขึ้น จากมาตรการคลายล็อกดาวน์ และโรงภาพยนตร์สามารถกลับมาเปิดได้ตามปกติภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าการบริโภคภาพยนตร์แอนิเมชั่นผ่านโรงภาพยนตร์ปรับตัวขึ้นมากจากปี 2562 เช่นเดียวกับตลาดแคเร็กเตอร์ที่มีการปรับตัว โดยเปลี่ยนจากการผลิตของเล่นและของสะสม เป็นการผลิตสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคมากขึ้น