การ์ทเนอร์ คาดมูลค่าตลาดไอทีทั่วโลกปี’65 ทะลุ 4.4 ล้านล้านเหรียญ

นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์
นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์

“การ์ทเนอร์” คาดการณ์ตลาดไอทีทั่วโลกปี 2565 ทะลุ 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่เติบโตลดลงเทียบปี’64 ขณะที่ตลาดในประเทศไทยโต 6.4% คิดเป็นมูลค่า 8.7 แสนล้านบาท

วันที่ 8 ธันวาคม 2564 การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาระดับโลก คาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกปี 2565 ว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.5% จากปี 2564 ขณะที่ประเทศไทยเติบโตขึ้น 6.4% เทียบปีนี้ คิดเป็นมูลค่า 8.7 แสนล้านบาท

นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์ กล่าวว่า องค์กรธุรกิจจะพัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นแทนการซื้อและนำไปใช้ส่งผลให้มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีในปี 2565 เติบโตลดลง เทียบกับปี 2564 ที่มีมูลค่า 4.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.5% เทียบปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม การสร้างสรรค์เทคโนโลยีดิจิทัลยังเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญอันดับต้น ๆ ขององค์กรต่าง ๆ เนื่องจากพวกเขายังมุ่งมั่นสร้างและพัฒนาวิถีการทำงานในอนาคตอย่างต่อเนื่อง และเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมความปลอดภัย รวมถึงรองรับการทำงานในแบบไฮบริดของพนักงานที่จะทวีความซับซ้อนมากขึ้นในปีหน้า

ในปี 2565 คาดว่า มูลค่าใช้จ่ายซอฟต์แวร์ระดับองค์กรจะเติบโตสูงสุดถึง 11.5% ได้แรงขับจากการใช้จ่ายในซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานที่เติบโตแซงหน้าซอฟต์แวร์แอปพลิเคชั่น และการใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ดีไวซ์ทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดในปีนี้ (15.1%) เป็นผลมาจากกิจกรรมแบบรีโมทต่าง ๆ อาทิ การทำงาน การดูแลสุขภาพและการเรียนการสอนทางไกลที่ขยายตัวต่อเนื่อง

โดยการ์ทเนอร์คาดว่า ในปี 2565 จะยังเห็นการเพิ่มขึ้นขององค์กรที่อัพเกรดอุปกรณ์และ/หรือลงทุนในอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อหลากหลายเพื่อสร้างการเติบโตและใช้ตั้งค่าการทำงานแบบไฮบริด

นอกจากนี้ยังคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของประเทศไทยในปีหน้าด้วยว่า จะมีการใช้จ่ายผลิตภัณฑ์และบริการเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 6.4% เทียบจากปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่า 8.7 แสนล้านบาท โดยบริการด้านการสื่อสารเป็นตลาดที่มีมูลค่าการใช้จ่ายไอทีใหญ่ที่สุด แต่คาดว่าจะเติบโตต่ำสุดในปี 2565

ขณะที่มูลค่าใช้จ่ายในหมวดอุปกรณ์ดีไวซ์ (สำหรับคอมพิวเตอร์พีซีและแทบเล็ตเป็นหลัก) โตสูงสุดที่ 21.7% ในปี 2564 ตามการทำงานระยะไกลและการเรียนรู้ทางไกลกลายเป็นวิถีใหม่ โดยผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจต่างอัพเกรดอุปกรณ์และหรือลงทุนในอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อหลากหลายเครื่องเพื่อใช้ทำงานระยะไกลและแบบไฮบริด

การ์ทเนอร์ยังคาดการณ์ด้วยว่า ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรจะเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าการใช้จ่ายเติบโตสูงที่สุดในปี 2565 เพิ่มขึ้นที่ 14.8% จากปีก่อน

“สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในปีที่แล้วและปีนี้ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยี แต่เป็นผู้คนที่มีความตั้งใจจริง และกระตือรือร้นในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปี 2565 ผู้บริหารไอทีจำเป็นต้องกำหนด และตั้งค่าวิธีการทำงานใหม่ ๆ โดยนำความสามารถในการประกอบธุรกิจแยกย่อยและเทคโนโลยีที่รองรับเวิร์กโฟลว์ที่ไม่สอดประสานกัน”

การ์ทเนอร์