โควิดดันตลาดอีคอมเมิร์ซ ยอดส่งสินค้าโต แต่กำไรบริษัทขนส่งลดจากราคาน้ำมันพุ่ง ด้านผู้ประกอบการโลจิสติกส์เร่งแก้โจทย์ หันจ้างเอาต์ซอร์ซ นำเทคโนโลยีทั้งเอไอ หุ่นยนต์มาใช้ ล่าสุดจีไอเอสส่งโซลูชั่นเรือธง “NOSTRA LOGISTICS Platform” ช่วยปิดจุดอ่อน เพิ่มประสิทธิภาพ
นางวรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด ผู้พัฒนาโซลูชั่นและแพลตฟอร์มบริหารจัดการด้านการขนส่ง กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ไลฟ์สไตล์การซื้อสินค้าของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยคุ้นชินกับการซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ทำให้ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลาดอีคอมเมิร์ซโตขึ้น และยังขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์โตขึ้นเรื่อย ๆ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ในส่วนเทรนด์การขนส่งและโลจิสติกส์ปีนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ กลยุทธ์ด้านซัพพลายเชนจะมีบทบาทในการกำหนดทิศทางของธุรกิจ โดยมีเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในการยกระดับโลจิสติกส์และการขนส่ง ได้แก่
1.supply chain 4.0 การจัดการในซัพพลายเชนไม่ใช่เพียงแค่สินค้าและบริการเท่านั้น แต่รวมถึงการเคลื่อนย้ายและเชื่อมโยงข้อมูลด้วย ข้อมูลในซัพพลายเชนยุคใหม่จะขับเคลื่อนภายใต้สมาร์ทเทคโนโลยี เช่น ข้อมูลดิจิทัล เอไอ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ไอโอที บล็อกเชน บิ๊กดาต้า
2.data analytics การใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้าจากระบบนำมาวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคต เพื่อกำหนดกลยุทธ์ วางแผน สนับสนุนการตัดสินใจ และติดตามผล เพิ่มสร้างศักยภาพให้แก่ธุรกิจ 3.robotic and drones เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำ และ 4.digital and contactless payment การชำระเงินแบบไร้สัมผัส จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้จ่ายแบบ POS แพลตฟอร์มต่าง ๆ
ขณะเดียวกัน ความท้าทายหลัก ๆ ที่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์กำลังเผชิญในปีนี้ คือ 1.ปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ต้นทุนก็เพิ่มขึ้น ในขณะที่กำไรลดต่ำลง ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับแนวทางการบริหารค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนทุกส่วน
โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ประกอบการเริ่มปรับลดต้นทุนภายใน จากการซื้อรถขนส่งก็เปลี่ยนเป็นการจ้างเอาต์ซอร์ซ (outsource) ให้จัดการงานขนส่งแทน เพื่อลดต้นทุนค่าบุคลากร รถขนส่ง และดูแลรักษารถในระยะยาว รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในงานขนส่ง
ถัดมา 2.การขาดข้อมูลในการบริหารจัดการ เพื่อประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงสุด เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานเปลี่ยนไป โดยคนทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน ถือเป็นปัญหาสำคัญของธุรกิจ เพราะทำให้ไม่สามารถวางแผนจัดการ หรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที
“แม้ปริมาณการส่งสินค้าจะเพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการขนส่งก็ยังต้องเจอกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น กำไรลดลง ซึ่งโจทย์หลักที่ลูกค้าเข้ามาหาเราและให้ช่วยแก้ไข ก็เป็นเรื่องของการหาโซลูชั่นช่วยลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง”
ทั้งนี้ จากปัญหาที่พบในธุรกิจบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ทำให้บริษัทเดินหน้าพัฒนาโซลูชั่น เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถบริหารจัดการได้ดีขึ้น เร็วขึ้น และมีต้นทุนที่ต่ำลง ด้วยการพัฒนา NOSTRA LOGISTICS Platform ขึ้น เพื่อยกระดับการจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์แบบรวมศูนย์
โดยผู้ให้บริการสามารถใช้แพลตฟอร์มเดียวในการบริหารจัดการและตรวจสอบข้อมูลงานขนส่งทั้งกลุ่มรถของตนเอง และใช้ platform connector ในการเชื่อมต่อข้อมูล GPS จากรถของเอาต์ซอร์ซ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งานหลายระบบ การจัดโซลูชั่นที่เหมาะกับธุรกิจโดยไม่เกินความจำเป็น เพื่อช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย ตลอดจนเชื่อมต่อระบบการทำงานจากหลายระบบเข้าด้วยกัน เพื่อส่งต่อข้อมูลการทำงานได้
นอกจากนี้ ยังให้บริการโซลูชั่นสำหรับการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ได้ตลอดทั้งกระบวนการทำงาน NOSTRA LOGISTICS TMS และ ePOD ตั้งแต่การวางแผนจัดสรรทรัพยากร คน และรถขนส่ง การจัดสินค้าบนรถ รวมถึงการวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุดให้กับรถขนส่งแต่ละคัน
ซึ่งบริการเหล่านี้จะเข้ามาช่วยให้บริษัทขนส่งสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ 200 ราย และปีนี้ก็จะเดินหน้าขยายลูกค้าใหม่กลุ่มธุรกิจขนส่งเพิ่มขึ้น
“ปี 2564 นอสตร้า โลจิสติกส์ โต 25% จากปี 2563 โดยส่วนของซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มโต 50% โดยปีนี้เชื่อว่าบริการเรือธง NOSTRA LOGISTICS จะทำให้ซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์ม โตขึ้นได้ 200%”
