“เทนเซ็นต์” ดึงแบรนด์ไทย เจาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน

“เทนเซ็นต์” โชว์ศักยภาพเครือข่ายโฆษณาสื่อในเครือเข้าถึงลูกค้าชาวจีน ลุยทำตลาด “Tencent Social Ads” เจาะเอสเอ็มอีที่หวังสร้างแบรนด์-โปรโมตร้านค้าผ่านโซเชียลในจีน ตั้งเป้ารายได้ 50-100 ล้านบาท ปีหน้า

นายกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2559 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 2.6 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของ GDP ของประเทศ และ 20% หรือประมาณ 450,000 ล้านบาท มาจากนักท่องเที่ยวจีน คิดเป็น 4% ของ GDP และปีนี้ ททท.ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศ 9.5 ล้านคน หรือ 26% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด เติบโตปีละ 9% ซึ่งการจับจ่ายซื้อสินค้า 52% ชอบซื้อผ่านดิวตี้ฟรี 16% ผ่านร้านรีเทล

ส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน 55% ใช้ไปกับการเดินทาง, ที่พัก และความบันเทิง อีก 41% ไปกับการช็อปปิ้ง และ 4% กับอาหาร แบ่งเป็นซื้อขนม 63% ของขวัญของฝาก 62% เสื้อผ้า 51% เครื่องสำอาง 49% อีกทั้งเกือบ 100% นักท่องเที่ยวจีนมีการหาข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เช่น วีแชตเพื่อเตรียมลิสต์รายการไว้ล่วงหน้าว่าจะซื้ออะไร

“จีนไม่มีเฟซบุ๊ก, ไลน์ แต่ 56.7% ของการใช้อินเทอร์เน็ตจะใช้โปรดักต์ของเทนเซ็นต์ เช่น คิวคิว, วีแชต ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้ประมาณ 980 ล้านคน โดย 90% ใช้ทุกวัน 80% ใช้เพื่อติดตามออฟฟิเชี่ยลจากแบรนด์ต่าง ๆ และ 85% ใช้วีแชตเพย์”

สำหรับประเทศที่คนจีนมีการเช็กอินผ่าน “วีแชต” มากที่สุดคือ ฮ่องกง มาเก๊า กรุงเทพฯ และภูเก็ต และไทยเป็นประเทศที่ 2 รองจากฮ่องกงที่มีการใช้วีแชตเพย์มากที่สุด ดังนั้นช่องเหล่านี้จึงช่วยสร้างการรับรู้และความคุ้นเคยให้ผู้บริโภคจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทยได้ โดยก่อนหน้านี้เทนเซ็นต์ให้ทางเอเยนซี่ที่สนใจนำ “เทนเซ็นต์ โซเชี่ยล แอด” ไปช่วยแบรนด์ในการสร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวจีน แต่ปัจจุบันนำเทนเซ็นต์ โซเชี่ยล แอด (Tencent Social Ads) มาให้บริการเองเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสร้างการรับรู้ให้ชาวจีนที่สนใจมาท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านวีแชต, คิวคิว และโซเชี่ยลมีเดียอื่น ๆ ในเครือเทนเซ็นต์ เช่น สร้างออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์ ลงโฆษณารูปแบบต่าง ๆ เช่น รูปภาพ วิดีโอ รวมทั้งซื้อสินค้าก่อนมารับของที่ไทยได้ เป็นต้น

พาแบรนด์ไทยเจาะตลาดจีน – เป็นมังกรจีนอีกรายที่เข้ามาขยายธุรกิจในไทยสำหรับ “เทนเซ็นต์” นับตั้งแต่เทกโอเวอร์เว็บดัง “สนุก” และเปลี่ยนชื่อบริษัทก็เริ่มเกมบุกตลาดอย่างจริงจังในหลายส่วน ล่าสุดด้วยบริการ Tencent Social Ads

โดยเทนเซ็นต์จะโฟกัสกลุ่มธุรกิจระดับบน เน้นที่พัก, ร้านอาหาร, ร้านค้าทั้งของฝาก เสื้อผ้า และเครื่องสำอาง ปัจจุบันกำลังเจรจากับลูกค้า 5 ราย และเริ่มมีธุรกิจขนาดกลางเริ่มให้ความสนใจเพิ่มขึ้น

สำหรับค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 10,000 เหรียญสหรัฐ/แคมเปญ/เดือน ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเปิดออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์อีก 120 เหรียญสหรัฐต่อปี ต้องมีหลักฐานอย่างพาสปอร์ต, เลขหมายโทรศัพท์ที่ใช้งานต่อเนื่องเกิน 3 รอบบิล, หนังสือจดทะเบียนบริษัท และคาดว่าจะมีรายได้ 50-100 ล้านบาทในปีหน้า

“จุดแข็งของเทนเซ็นต์คือ เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม รวมทั้งมีทีมงานในจีนทำให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยทำคอนเทนต์เป็นภาษาจีน ช่วยดูแลแคมเปญ โดยตัววัดผลดูที่ CTR หรือยอดการคลิก ที่มาตรฐานทั่วโลกอยู่ที่ 0.15% แต่วีแชตมียอด 5-10% ขึ้นอยู่กับแบรนด์” 

ปัจจุบันมีร้านค้าในไทยรับชำระด้วย “วีแชตเพย์” มากขึ้น เช่น คิงเพาเวอร์, เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น ร้านค้าที่ต้องการใช้บริการ บริษัทจะส่งต่อไปยังพาร์ตเนอร์ให้มาติดตั้งระบบวีแชตเพย์ให้ก่อนเข้าไปพูดคุยว่าต้องการโปรโมตร้านค้าในประเทศจีนหรือไม่