“ทรูไอดี” ย้ำจุดยืนศูนย์รวมคอนเทนต์บันเทิงครบ “หนัง-ซีรีส์-กีฬา-ทีวี-เพลง” ใช้ได้ทุกคนไม่จำกัดค่ายมือถือ ทั้งโชว์ฐานลูกค้าทุกแพลตฟอร์มทั้งดูผ่าน “เว็บ-กล่องทีวี-แอปพลิเคชั่น” ทะลุ 14 ล้านรายตั้งเป้าขยับฐานลูกค้าเพิ่มกว่าเท่าตัวแตะ 30 ล้านรายภายในสิ้นปีหน้า พร้อมเตรียมทุ่มงบฯอีกกว่าพันล้านบาทเสริมทัพคอนเทนต์
นายสรรเสริญ สมัยสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูดิจิตอล แอนด์ มีเดีย แพลตฟอร์ม จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น “ทรูไอดี” (TrueID) กล่าวว่า การแข่งขันของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือส่งผลให้ธุรกิจคอนเทนต์เกิดขึ้นมากมายแต่มีผู้บริโภคบางกลุ่มเท่านั้นที่สามารถจ่ายได้จึงหันไปชมของเถื่อนที่ไม่มีลิขสิทธิ์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 10,000 ล้านบาท สิ่งที่ทรูไอดีทำคือ รวมคอนเทนต์ที่มีลิขสิทธิ์ให้ผู้บริโภคดูฟรี โดยไม่จำกัดค่ายช่วยอุดช่องโหว่ของคนดูทรูวิชั่นส์ที่ปกติต้องดูผ่านทีวีทำให้ทุกคนเข้าถึงคอนเทนต์ ทั้งหนังดัง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
จากฮอลลีวูด, บล็อกบัสเตอร์ ซีรีส์, รายการทีวีกว่า 3,000 เรื่อง, เพลงจากค่ายเพลงในและต่างประเทศ, รายการทีวีจากทรูวิชั่นส์, ฟรีทีวี, เคเบิลทีวี และช่องอื่น ๆ กว่า 87 ช่อง เป็นต้น
โดยบริการจะมี 2 ส่วน คือ แบบฟรี และเสียเงิน แบบเสียเงินเป็นคอนเทนต์พรีเมี่ยม TrueID Premium HD ปกติค่าบริการ 300 บาท/เดือน ถ้าใช้บริการของทรูอยู่แล้วจะได้รับสิทธิ์ดู
3 เดือน หรือ 12 เดือน ส่วนคนทั่วไปจะได้สิทธิใช้ฟรี 1 เดือน
“การแข่งขันระหว่างโอเปอเรเตอร์ ถึงจุดอิ่มตัวที่จะแข่งด้านเดต้าจึงหันมาแข่งกันที่คอนเทนต์ ด้วยโมเดลธุรกิจนี้จะช่วยให้ลดยอดยกเลิกบริการ และช่วยดึงลูกค้าให้ย้ายค่ายได้ เพราะค่าบริการพรีเมี่ยมสำหรับค่ายอื่นอยู่ที่ 300 บาท/เดือน การย้ายค่ายมาใช้จึงคุ้มกว่า”
ปัจจุบันแพลตฟอร์มการให้บริการคอนเทนต์ของทรูไอดี ประกอบไปด้วยเว็บไซต์ trueid.net มีสัดส่วนผู้ใช้คิดเป็น 80%, ดูผ่านกล่อง TrueTV และแอปพลิเคชั่นคิดเป็น 20% โดยในช่วง 5 เดือนที่เปิดตัว มีผู้สมัครใช้บริการรวม 14 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าค่ายอื่น 30% โดยเฉพาะแอปพลิเคชั่นเปิดตัวตั้งแต่ ก.ค. ที่ผ่านมา มียอดดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้ง มีผู้ใช้งานกว่า 8 แสนคน/เดือน ยอดเข้าชมเฉลี่ย 2 แสนครั้ง/วัน ตั้งเป้ามีผู้ใช้งาน 30 ล้านรายภายในสิ้นปี 2561 สำหรับคอนเทนต์ยอดนิยมเป็นภาพยนตร์, กีฬา และทีวีที่ผ่านมา บริการ “ทรูไอดี” ลงทุนไปหลักพันล้านบาท ทั้งในแง่ระบบการตลาดและคอนเทนต์ ซึ่งเป็นส่วนลงทุนมากที่สุด และคาดว่าปี 2561 จะลงทุนเพิ่มไม่ต่ำกว่าพันล้านเช่นกัน แต่รูปแบบการหารายได้จะมองไปที่การขายโฆษณามากกว่าเก็บจากผู้บริโภค
“ปีนี้เป็นการปรับโครงสร้างพื้นฐาน รวมแอปคอนเทนต์ทั้งหมดของทรูมาอยู่ในแอปเดียว ก่อนจะค่อย ๆ ปิดคอนเทนต์เก่า จึงยังไม่ถึงขั้นตอนการสร้างรายได้แต่เป็นช่วงการขยายฐานลูกค้า”
บริการทรูไอดีจะเน้นลูกค้ากลุ่มกว้าง ไม่ได้แข่งกับผู้ประกอบการรายอื่นที่โฟกัสแกนลึก แต่ในอนาคตจะเป็นพาร์ตเนอร์กับผู้ผลิตคอนเทนต์พรีเมี่ยมด้วยแน่นอน โดยอาจมีรูปแบบการซื้อบริการแยกต่างหาก สร้างตลาดให้คนกล้าที่จะจ่ายเงิน แต่ราคาต้องไม่สูงเกินไป
“ปัจจุบันมีผู้เล่นระดับโลกเข้ามาทุ่มตลาดในไทยเป็นพันล้าน เพื่อโยกให้คนดูเดิมมาดูแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ช่วยกันกระตุ้นตลาด แต่คนที่จะยืนอยู่ได้ในอนาคตต้องมีจุดที่แตกต่าง”
ล่าสุดมีแคมเปญพิเศษให้ลูกค้าที่ดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชั่น TrueID ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ โดยมีรางวัลกว่า 1 ล้านรางวัล มูลค่ารวมกว่า 25 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มลูกค้าได้อีกอย่างน้อย 1 ล้านคน
“ทรูไอดีมีผู้ใช้บริการเยอะเกินคาด โดยเฉพาะช่วงฟุตบอลบิ๊กแมตช์หรือมีสเปเชียลคอนเทนต์ทำให้คนมาดูมากจนบางครั้งเซิร์ฟเวอร์ล่ม แต่เราก็จะพยายามแก้ไขให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่อย่างน้อยก็ชี้ให้เห็นว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว”
