Nesterly โคลีฟวิ่งสเปซ สำหรับคนต่างวัย

คอลัมน์ สตาร์ตอัพ “ปัญหา” ทำ “เงิน โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

ขณะหนุ่มสาวมากมายมองหาที่พักดี ๆ ในราคาที่พอจ่ายไหว ก็มีเจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยที่เป็นผู้สูงอายุที่อยากหาคนมาอยู่ด้วยเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระเช่นกันสตาร์ตอัพที่เราจะพูดถึงในวันนี้ นำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคน 2 เจเนอเรชั่นนี้

บริษัทนี้มีชื่อว่า Nesterly ก่อตั้งโดย “โนเอล มาร์คัส” กับ “ราเชล โกเออร์” 2 เพื่อนซี้ที่เพิ่งจบปริญญาโทด้านการวางผังเมืองจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ MIT มาหมาด ๆ

บริการของ Nesterly คือ การจับคู่คนหนุ่มสาวที่กำลังมองหาที่พักกับผู้สูงอายุเจ้าของบ้านที่อยากปล่อยห้องว่างให้เช่า โดยทั้งผู้เช่าและเจ้าของบ้านสามารถสมัครใช้บริการ Nesterly ผ่านเว็บไซต์ จากนั้นก็เข้าไปดูรายละเอียดของกันและกันได้ สนใจข้อเสนอของใคร ก็กดทักทายและเจรจากันได้โดยตรง

เมื่อตกลงปลงใจแล้ว ทางเว็บมีบริการให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการทำสัญญาเช่าฟรี พร้อมให้บริการชำระเงินค่าเช่าผ่านระบบออนไลน์ด้วย

ลักษณะบริการคล้ายกับบริการของ Airbnb นั่นล่ะคะ ที่ต่างกันคือ Nesterly ไม่ได้เน้นที่นักท่องเที่ยวรายวัน แต่โฟกัสไปที่คนหนุ่มสาวที่มีงบประมาณจำกัด และมองหาที่พักระยะกลางถึงระยะยาว

อีกมุมหนึ่งที่น่ารักและทำให้ Nesterly แตกต่าง คือมีการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมร่วมกัน เช่น ผู้เช่าที่ยอมช่วยงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามแต่ผู้สูงอายุต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยพาสุนัขไปเดินเล่น ช่วยตัดหญ้า ก็จะได้รางวัลจากคุณลุง คุณป้า เป็นส่วนลดค่าเช่าห้อง

นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อความปลอดภัยของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นการเช็กสถานะเพื่อยืนยันตัวตนตามที่อยู่ สถานภาพนักศึกษา ความน่าเชื่อถือทางการเงิน เช็กความเห็นของอดีตเจ้าของบ้านที่ผู้เช่าเคยใช้บริการมาก่อน จนถึงการสัมภาษณ์ผ่าน skype ก่อนอนุญาตให้ใครโพสต์โปรไฟล์ขึ้นเว็บไซต์

รายได้ของ Nesterly มาจากค่าธรรมเนียมที่คิดตามระยะเวลาการเช่า ตั้งแต่ 99.99 เหรียญสำหรับการเช่า 1-3 เดือน ไปจนถึง 199.99 เหรียญ สำหรับการเช่า 7-12 เดือน

บริการ Nesterly มาได้ถูกเวลาพอดี เพราะตอนนี้ในอเมริกากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านที่อยู่อาศัยใหญ่ ๆ 2 เรื่อง คือ ค่าที่พักที่สูงลิบลิ่วเกินกว่าที่คนหนุ่มสาวรายได้ขั้นต่ำจะจ่ายไหว และวิกฤตผู้สูงอายุที่ต้องอยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การดูแลบ้านเป็นภาระที่หนักอึ้ง

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คาดว่าภายในปี 2035 กว่า 1 ใน 3 เจ้าของบ้านในอเมริกาเป็นผู้สูงวัยอายุเกิน 65 ปี และกว่าครึ่งต้องอยู่เพียงลำพัง ถึงแม้จะมีรายงานความเสี่ยงด้านสุขภาพโดยเฉพาะการเป็นโรคซึมเศร้าแต่ผู้สูงอายุก็ยังเลือกอยู่ลำพัง

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ มีห้องกว่า 3.6 ล้านห้องในบ้านผู้สูงอายุที่ปล่อยว่างไว้

“มาร์คัส และโกเออร์” นำจุดนี้มาขยายผลเป็นโมเดลธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการด้านที่พักอาศัยของคนต่างวัย (intergenerational model) และปลุกปั้นผ่านโครงการ MIT Startup Accelerator ทั้งคู่ก็ทดลองเปิดให้บริการ เมื่อ ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นโครงการร่วมกับนายกเทศมนตรีเมืองบอสตันโดยเจาะไปที่กลุ่มนักศึกษาที่กำลังมองหาห้องพักกับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีห้องว่างให้เช่าเป็นหลัก

การร่วมมือกับภาครัฐตั้งแต่เริ่มต้น เป็นก้าวย่างที่น่าสนใจสำหรับสตาร์ตอัพหน้าใหม่รายนี้ เพราะแสดงถึงความพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ

มากกว่าจะท้าทายกฎหมายเหมือนสตาร์ตอัพรุ่นพี่อย่าง Airbnb ที่มีคดีจากข้อขัดแย้งทางกฎหมายให้ปวดหัวไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งนอกจากจะเสียชื่อแล้วยังพลอยทำให้เจ้าของที่พักเดือดร้อนไปด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่ทั้งมาร์คัส และโกเออร์ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุที่เป็นลูกค้าของตน

ถึงจะคว้ารางวัลชนะเลิศจากการประกวด New York City’s 2017 BigApps Competition ไปเมื่อตอนต้นปี Nesterly ก็ยังเป็นสตาร์ตอัพขนาดเล็กที่เพิ่งตั้งไข่และมีบริการจำกัดแค่ในเมืองบอสตัน เท่านั้นและบริษัทกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบ AI เพื่อช่วยให้การจับคู่ผู้เช่ากับเจ้าของบ้านเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอีกไม่นานคงเริ่มขยับขยายไปเมืองอื่นด้วย

เป็นกำลังใจกันต่อไปค่ะ เพราะคงมีผู้สูงอายุที่อยากมีเพื่อนแก้เหงาและมาช่วยแบ่งเบาภาระรอใช้บริการอยู่ไม่น้อยทีเดียว