AIS จับมือ รพ.วิมุต ขยายอีโคซิสเต็ม 5G สู่วงการแพทย์

AIS จับมือรพ.วิมุต

AIS Business จับมือโรงพยาบาลวิมุต เติมเต็มอีโคซิสเต็ม 5G ผลักดัน Digital Health Care หวังสร้างโซลูชั่นการบริการที่เข้าถึงได้ง่าย ได้ทุกคนและมีประสิทธิภาพ 

วันที่ 9 พ.ค. 2565 AIS ฺusiness ร่วมกับโรงพยาบาลวิมุต ยกระดับอุตสาหกรรม Healthcare ด้วยการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยี และโครงข่าย AIS 5G พร้อมให้บริการแบบ Smat Digital Healthcare เต็มรูปแบบ ครั้งแรกในไทย

โดย นพ. สันติ เอื้อนรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า โรงพยาบาลวิมุต แตกออกมาจากเครือพฤกษา ซึ่งมีแนวคิด Quality of life ทำให้คนทุกระดับสามารถเข้าถึงบ้านจัดสรรได้ การทำโรงพยาบาล ก็เป็น Quality of life จะทำอย่างไรให้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าถึงที่บ้าน เข้าถึงชุมชน เข้าถึงทุกคน

เป้าหมาย คือการเป็น Smart Hospital หรือการนำเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับการทำงาน คือ 1. ลดภาระงาน (Work load) เช่น งานเอกสารงานระบบ 2. เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วยในระบบการดูแลต่าง ๆ

3. เพิ่มประสบการณ์  ที่ต้องมีบริการอื่น ๆ อย่างหลากหลาย (Availiable) เข้าถึงได้ง่าย (Accessible)  มีความเชื่อมั่นหรือมั่นใจ (Assured) และเข้าใช้ได้ง่ายทุกระดับ (Affordable) 

“เราเป็นโรงพยาบาลน้องใหม่จึงหา Service Provider ที่จะมาร่วมกันทำโซลูชั่นต่าง ๆ เช่น การจัดการฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการระบบงานภายในที่เชื่อมต่อส่วนต่าง ๆ รวดเร็ว รวมถึงมีแอปพลิเคชั่นที่เข้าถึงคนยุคดิจิทัล ที่ช่วยเรื่องนัดหมาย แจ้งผลตรวจ ตลอดจนการปรึกษากับแพทย์ออนไลน์”

ด้านนายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS กล่าวว่า เป็นความต้องการของ AIS ที่จะพัฒนาระบบนิเวศ 5G ให้เป็นโครงสร้างที่ใช้งานได้จริง เพราะเทคโนโลยีจะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่นำออกไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น โรงงาน โลจิสติกส์ รีเทล และอื่นๆ

ล่าสุดกับ รพ.วิมุต ในฐานะ รพ.น้องใหม่ ที่ต้องหาบริการที่แตกต่าง โดยบริษัทเข้ามาช่วย Manage Services IT ในส่วนงานระบบภายในต่าง ๆ Application ที่พัฒนาขึ้นมาเข้าถึงคนได้ง่าย และ Platform ที่ใหญ่ขึ้น

“เราต้องการสร้างอีโคซิสเต็ม เพื่อส่งออกเทคโนโลยีไปใช้จริงในหลายอุตสาหกรรม กรณี รพ.วิมุต มาจากความต้องการเข้าถึงคนด้วยค่าบริการที่ราคาถูก จึงเกิดการรวมกันเป็นโซลูชั่น ที่เรียกว่า Digital Health Care ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นในโรงพยาบาล เพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงาน และเข้าถึงได้ง่าย

ซึ่งในอนาคตจะขยายบริการออกไปทั้งศูนย์เดย์แคร์ งานฉีดวัคซีน หรือการจ่ายยาในเชิงรุก ที่จะเริ่มต้นทดลองนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ ซึ่งจะมีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มอีกมากมาย”