กระทรวงดีอีเอส เตรียมบังคับใช้กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล ดีเดย์ 1 มิ.ย.นี้ เดินหน้าซักซ้อมแนวทางก่อนใช้จริง ย้ำเป็นการปกป้องสิทธิประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจดิจิทัล
วันที่ 23 พฤษภาคม 2556 ในช่วงบ่ายของวันนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้จัดสัมมนาแนวทางในบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป หลังจากเลื่อนมากว่า 2 ปี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลที่ผ่านมา มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนอย่างมาก รัฐบาลตระหนักในปัญหานี้ จึงประสงค์จะพัฒนาข้อกฎหมายที่เป็นประโยชน์ให้ทัดเทียมนานาประเทศ เพื่อคุ้มครองสิทธิในข้อมูลของประชาชน อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้ยังนับเป็นหนึ่งในชุดกฎหมายดิจิทัลเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมในการใช้บริการออนไลน์ในชีวิตประจําวัน
ด้านนายเธียรชัย ณ นคร ประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่ใช่การกีดกันหรือห้ามนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่เป็นการสร้างกฎเกณฑ์สําคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกนําไปใช้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส และได้รับการดูแลมิให้มีการนําข้อมูลไปใช้งานในทางที่ผิด การกําหนดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลในทางที่ไม่ก่อให้เกิดเป็นการละเมิดสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลมากจนเกินไป
ซึ่งหากเทียบกับกฎหมาย GDPR ที่สหภาพยุโรปใช้ การพัฒนากฎหมายในลักษณะเดียวกันนี้จะทำให้องค์กรธุรกิจไทยมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเสริมว่า กฎหมาย pdpa เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย และเพื่อไม่ให้ประชาชนโดนลิดรอนสิทธิของตนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
และการมีแนวทางที่ชัดทำให้ในภาคธุรกิจ เอกชน ภาครัฐ สามารถขับเคลื่อนงานของตัวเองได้ โดยไม่ได้ลำบากเกินไป
จึงอยากให้คณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ออกแนวทางปฏิบัติที่ให้ปฏิบัติตามได้ แต่ไม่อยากให้นำไปสู่การฟ้องร้องกัน เพราะเป้าหมายคือทำให้การทำให้กฎหมายนี้บังคับใช้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนที่มีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเอง เพื่อความเชื่อมั่นต่อระบบการทำงานของภาครัฐและเอกชน