HandiGo & Navigo โซลูชั่นเพื่อท้องถิ่นรับท่องเที่ยว 4.0

ภาพจาก www.kosamui.com

สัมภาษณ์

การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศ ทุกวันนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก แต่หลายพื้นที่เจอปัญหาว่า นักท่องเที่ยวเพิ่ม แต่ผู้ประกอบการ “ท้องถิ่น” มีรายได้ลดลง จุดประกายให้ “ศักดิเดช พูลสวัสดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮนดิโก จำกัด ที่คลุกคลีในวงการท่องเที่ยวมานาน ลุกขึ้นมาหาวิธีแก้ปัญหาด้วยการสร้างแอปพลิเคชั่นเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงบริการท้องถิ่น

Q : ทำไมทำแอปพลิเคชั่นท่องเที่ยว

ภาครัฐ ภาคเอกชนทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ปีที่ผ่านมารายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีมากถึง 2.51 ล้านล้านบาท แต่คนในท้องถิ่นรายได้ลดลง พอสำรวจก็พบว่า นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ไว้วางใจ กลัวโดนโก่งราคา ด้วยเซอร์วิสของไทยยังไม่ได้มีราคามาตรฐาน จึงเห็นว่าต้องเข้าไปแก้ปัญหานี้ จนเกิดเป็นแอปพลิเคชั่นตัวแรก “เนวิโก” (Navigo) แอปเรียกแท็กซี่ในสมุย เพื่อรักษามาตรฐานราคา ให้ชาวต่างชาติไม่รู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ

ทำมาปีกว่า ผลตอบรับดี ก็เริ่มคิดว่าต่อยอดเทคโซลูชั่นได้อีก จนเกิดเป็น “แฮนดิโก” (HandiGo) เป้าหมายคือกำจัดปัญหาด้านภาษาในการเข้าใช้บริการโรงแรมของคนในท้องถิ่น ช่วยให้โรงแรมมีรายได้เพิ่ม ลดต้นทุน

Q : เด่นกว่าแอปอื่น

เราไม่ใช่แอปท่องเที่ยว แต่เป็นแอปเซอร์วิส อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สั่งอาหาร จองสปา โดยแชตกับโรงแรมมีระบบแปลภาษาอัตโนมัติ เชื่อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม เริ่มจากบังคับให้สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อระบุว่าเช็กอินห้องไหน ไม่ว่าลูกค้าจะพิมพ์ภาษาอะไรในระบบก็จะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ และเมื่อพนักงานโรงแรมพิมพ์ตอบก็จะแปลกลับเป็นภาษาที่ลูกค้าพิมพ์ส่งมา ซึ่งก็ตอบโจทย์ในส่วนที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นมาก และนักท่องเที่ยวชาวจีนมีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองมากขึ้นกว่า 50% เป็นกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูงเกิน 1 ล้านบาทต่อปี แล้วก็ยังเพิ่มรายได้ด้วยการส่งโปรโมชั่นสินค้าและบริการต่าง ๆ ของโรงแรม เช่น แพ็กเกจทัวร์ จองร้านอาหารในพื้นที่ใกล้เคียง HandiGo จะเป็นเหมือนเซเว่นอีเลฟเว่น ที่รวมบริการท้องถิ่นเอาไว้ ใครอยากขายอะไรก็นำเข้ามา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเมกชัวร์ก่อนว่า มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน จะเก็บค่าคอมมิสชั่น แต่ในส่วนของโรงแรม เราให้ใช้ฟรี ตามแผนถ้า HandiGo มีโรงแรมใช้เยอะ จะขยาย Navigo บริการเรียกแท็กซี่ไปตามหัวเมืองต่าง ๆ ด้วย

Q : ไม่จำกัดเฉพาะในเกาะสมุย

ตอนนี้มีห้องพักเข้าร่วมราว 10,000 ห้อง อยู่ตามหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน สมุย ภูเก็ต กระบี่ เพราะสิ่งที่ดึงดูดคือการันตีได้ว่า โรงแรมจะได้รับการรีวิวเพิ่มขึ้น 10-20 เท่า เพราะเมื่อลูกค้าเช็กเอาต์จะมีปุ่มให้ลูกค้ารีวิวในระบบHandiGo ซึ่งจะลิงก์ไปที่เฟซบุ๊กของโรงแรมนั้นแม้รายได้เราจะมาจากเซอร์วิสอื่น ๆ นอกจากโรงแรม แต่ถ้าโรงแรมไหนใช้บริการเราก็ยินดี ซึ่งเราจะไม่เก็บเงินกับทางโรงแรมในไทย แต่จะเก็บกับโรงแรมที่ต่างประเทศ ในอนาคตจะให้ลูกค้าล็อกอินเพื่อใช้เซอร์วิสอื่น ๆ ได้เพียงเลือกพื้นที่ โดยไม่ต้องพักโรงแรม

Q : ความท้าทายของตลาดนี้

อย่างในสมุย ตอนเราเปิด Navigo ไม่มีใครมาร่วมกับเราเลย ต้องลงทุนซื้อรถเอง 8 คันแล้วนำมาวิ่งเป็นแท็กซี่ด้วยราคามาตรฐาน เพื่อให้คนในพื้นที่เห็นว่า ถึงไม่โก่งราคา ก็ยังมีรายได้มาก ทำให้ตอนนี้มีคนนำรถแท็กซี่มาเข้าร่วม 40 คัน ในอำเภอเดียว จึงเตรียมที่จะขยายไปให้บริการในพื้นที่อื่น ๆ ด้วยแต่ก็ยอมรับว่า มีความยากเรื่องการแข่งขันในแต่ละพื้นที่

Q : จะสร้างรายได้ เมื่อไหร่

ปีนี้ก็เริ่มมีแล้ว โดยโฟกัสการเพิ่มแชนเนล สิ้นปีหน้าจะเพิ่มให้ถึง 150,000 ห้อง คนดาวน์โหลดก็จะเป็นแขกที่เข้าพัก ด้วยโมเดลที่โรงแรมจะพยายามให้แขกดาวน์โหลดไปใช้เพื่อให้มีรีวิวเยอะ เพราะการซื้อรีวิวโรงแรมในระบบอื่น ราคาไม่ได้ถูก ถ้ามีห้องพักในระบบ 1 แสนห้อง มีผู้เข้าพัก 70% จะมีลูกค้า 4 แสนคนต่อเดือนที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นไปใช้งาน ซึ่งก็จะทำให้เกิดการใช้บริการอื่น ๆ ที่เป็นรายได้ของเรามากขึ้น