ZORT-AUTOBOT โชว์เคสแพลตฟอร์มจัดการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ZORT จับมือ AUTOBOT โชว์เคส

ZORT จับมือ AUTOBOT โชว์เคสการใช้แพลตฟอร์มบริหารจัดการออร์เดอร์และสต๊อกสัญชาติไทย หนุนธุรกิจแบรนด์ไทยสู้ต่างชาติ คาดตลาดอีคอมเมิร์ซไทยทะลุ 3.5 แสนล้านบาทในสิ้นปี โตต่อเนื่อง 30% ต่อปี

วันที่ 15 มิถุนายน 2565 นายพาสูง ส่งศักดิ์สกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบริหารจัดการออร์เดอร์ และสต๊อกครบวงจร (Seller Management Platform) เปิดเผยว่าแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยยังอยู่ในทิศทางก้าวกระโดด และคาดว่ามูลค่าตลาดในไทยในปี 2565 นี้จะมากถึง 3.5 แสนล้านบาท เติบโตอย่างน้อย 30% ทุกปี แต่การแข่งขันก็จะเข้มข้นขึ้นด้วย ทั้งจากผู้ประกอบการหน้าใหม่ และรายเดิม รวมเข้ากับปัจจัยเสี่ยงจากการหดตัวของประชากรไทยในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า เป็นความท้าทายของธุรกิจต่าง ๆ

สำหรับบริษัทเตรียมแผนพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ แข่งขันในโลกออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาระบบจัดการออร์เดอร์ และสต๊อกแบบครบวงจรเพื่อเข้ามาแก้ไขจุดอ่อนทางธุรกิจของการขายของออนไลน์ และออฟไลน์ โดยเฉพาะการเปิดร้านค้าผ่านหลายแพลตฟอร์ม เช่น Lazada, Shopee, JD Central, Facebook หรือ Line โซเชียลคอมเมิร์ซ และเว็บไซต์ รวมถึงแพลตฟอร์มใหม่ ๆ

“ตลอด 7 ปีที่ ZORT เปิดให้บริการ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้ว 4,500 ราย เพิ่มจากต้นปีที่มีอยู่ 3,000 ราย ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ราย ภายใต้แนวทางธุรกิจที่ยึด Customer Centric เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ตอบโจทย์ธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กถึงธุรกิจขนาดใหญ่”

ส่วนฐานลูกค้าปัจจุบันแบ่งเป็นผู้ค้าออนไลน์รายย่อย 50% ลูกค้าองค์กร 50% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บริการ ZORT ก็ยังคงใช้บริการต่อเนื่อง เช่น บริษัท โรบอท เมคเกอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ AUTOBOT แบรนด์ดูดฝุ่นสัญชาติไทย ที่เติบโตมาด้วยกันกับ ZORT

นายพาสูงกล่าวต่อว่า AUTOBOT ใช้บริการด้านระบบจัดการออร์เดอร์ การรวมออร์เดอร์จากทุกช่องทางการขายมาไว้ในที่เดียว สามารถติดตามสถานะการสั่งซื้อได้ตั้งแต่ต้นจนจบ มีระบบจัดการคลังสินค้าอัพเดตสต๊อกอัตโนมัติได้แบบเรียลไทม์ ไปยังทุกหน้าร้านทุกแพลตฟอร์ม ทั้งยังดึงข้อมูลสต๊อกสินค้าเป็นไฟล์ Excel ได้ด้วยระบบบัญชี (Accounting) จัดการเอกสารบัญชีได้ง่าย ๆ รวมถึงระบบคลังสินค้า (Fulfillment) จึงสนับสนุนการทำธุรกิจ Autobot ที่เน้นการขายบนช่องทางออนไลน์ 80% ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลายเป็นแบรนด์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสัญชาติไทยที่ขายดีอันดับ 1 ของ Shopee ในปัจจุบันด้วย

ด้านนายธรรมสร มีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรบอท เมคเกอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ AUTOBOT เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 9 ปี และใช้แพลตฟอร์มของ ZORT มาตลอด 5 ปี นับจากปีแรก ๆ ที่เปิดตัวสินค้าแบรนด์ AUTOBOT มีพนักงานเพียง 5 คน ต่อมาเทรนด์การเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลและวิถีชีวิตเร่งรีบ ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีความต้องการสินค้าที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าแบรนด์ AUTOBOT เติบโตก้าวกระโดด ล่าสุดปี 2564 มียอดขายได้ 200 ล้านบาท โต 20% จากปีก่อนหน้า

“การเติบโตส่งผลให้บริษัทต้องขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด เราจึงมองหาแพลตฟอร์มเข้ามาช่วยบริหารจัดการงานขายแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการขาย พร้อมไปกับการลดต้นทุนเพื่อช่วยให้แข่งขันกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศได้ ซึ่ง ZORT ตอบโจทย์ได้ดี”


นายธรรมสรกล่าวต่อว่า ปัจจุบันสินค้าเกี่ยวกับ AI Smart Home Device แบรนด์ต่างประเทศเข้ามาบุกตลาดในไทยเป็นจำนวนมาก โดย AUTOBOT มีส่วนแบ่งตลาดที่ 20% มีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งให้ถึง 30% ภายในปี 2566 ซึ่งการสร้างแบรนด์สินค้าของไทยต้องแข่งขันกับนานาประเทศ ซึ่งคู่แข่งเหล่านั้นมีต้นทุนและงบฯการตลาดมหาศาล และในปีนี้ โรบอท เมคเกอร์ ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 250 ล้านบาท ปัจจุบันมีสินค้า 8 ประเภท และมีแผนขยายไปสู่สินค้าประเภทสัตว์เลี้ยง แม่ และเด็ก เพิ่มเติม