แม่ทัพ “เทเลนอร์กรุ๊ป” ตบเท้าเข้าพบ “กสทช.” แจงกรณีควบรวมธุรกิจ ปั้น “เทคคัมปะนี” พลิกบริษัทจากอ่อนแอเป็นเข้มแข็ง เพิ่มโอกาสไทยขึ้นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ย้ำไม่มีแผนเลย์ออฟ
วันที่ 30 มิถุนายน 2565 นายซิคเว่ เบรกเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์กรุ๊ป บริษัทแม่ดีแทค เปิดเผยว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ ตนและทีมผู้บริหาร มีคิวเข้าพบ กสทช.เพื่อแสดงถึงความตั้งใจของบริษัทที่จะสร้างบริษัทเทคโนโลยีที่แข็งแรง ผ่านการควบรวมกิจการระหว่างดีแทค และทรู เพื่อช่วยให้ประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีครั้งใหญ่ในยุคการเติบโต 2.0 ที่เทคโนโลยี 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และไอโอที รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการผลักดันให้ประเทศไทยเขึ้นป็น “ฮับ” เทคโนโลยีของภูมิภาคได้ด้วย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
“เราเพิ่งได้รับแจ้งถึงความชัดเจนจากหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบในประเทศมาเลเซียให้เดินหน้าควบรวมกิจการระหว่างดิจิ บริษัทลูกของเทเลนอร์กับเซลคอม ผู้ให้บริการมือถือในมาเลเซียได้ เท่ากับย้ำว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไทย และคิดว่า กสทช.เองก็จะเข้าใจเช่นกันว่าการควบรวมจะเป็นสิ่งที่ดีกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการลดการลงทุนซ้ำซ้อน และทำให้ทั้งดีแทคและทรู สร้างบริษัทใหม่ที่แข็งแรงขึ้นสามารถสู้กับคู่แข่งรายอื่นได้อย่างทัดเทียมกัน”
นายซิคเว่ย้ำว่าเทเลนอร์เข้ามาทำธุรกิจในไทย และในเอเชียมากว่า 20 ปี และไม่มีแผนที่จะถอนการลงทุนออกไปจากไทยแต่อย่างใด ทั้งมองไปถึงการสร้างการเติบโตในอีก 20 ปีข้างหน้าด้วย ซึ่งการควบรวมธุรกิจกับทรูภายใต้บริษัทใหม่จะทำให้บริษัทสามารถลงทุน และพัฒนาบริการใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
“เราไม่มีแผนเลย์ออฟพนักงาน และจะมีการนำเสนอแพ็กเกจให้พนักงาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อธุรกิจมีการควบรวมกัน ส่วนเรื่องแบรนด์ดีแทค ก็จะหารือร่วมกันระหว่างผู้บริหารระดับสูงของทั้งดีแทคและทรูในเรื่องนี้ด้วย”