NTTชู”AI”ภาษาไทยหนุนโกดิจิทัล

“เอ็นทีทีฯ” ผนึกพันธมิตรขยายตลาด หนุนองค์กรในไทยโกดิจิทัลเต็มสูบนำเสนอบริการเอาต์ซอร์ซ และโซลูชั่นตอบโจทย์ธุรกิจ ทั้งเร่งขยายพื้นที่ศูนย์ Data Center Bangkok 2 รองรับลูกค้าใน 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ตั้งเป้าปั๊มรายได้โตสองหลัก เตรียมนำเทคโนโลยี AI ภาษาไทยเสริม

นายมานาบุ คาฮาระ ประธาน บริษัท เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไทยยังเป็นประเทศที่น่าลงทุนแม้รายได้จะกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯเป็นหลัก GDP ต่อหัวของประชากรในกรุงเทพฯ โตขึ้น และปีนี้ยิ่งโต ทั้งกำลังเปลี่ยนจากการใช้แรงงานไปใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ในปี 2583 จะเหลือวัยทำงานที่อายุ 15-59 ปี เพียง 35.1 ล้านคนเท่านั้น จึงต้องเร่งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย บริษัทจึงนำเสนอบริการ 2 ส่วน คือ 1.ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นที่จะเข้าไปช่วยเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ใช้ดิจิทัลมากขึ้น และ 2.บริการเอาต์ซอร์ซ

“ตลาดไอซีทีในไทยโตน้อยกว่า 10% แต่เอ็นทีทีฯพยายามโตมากกว่าตลาด โดยปี 2560 คาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท โต 10% ปี 2561 น่าจะโตได้ 2 หลัก จากสภาพเศรษฐกิจที่น่าจะดีขึ้น และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทำให้บริษัทต่าง ๆ ลงทุนไอทีมากขึ้น”

มานาบุ คาฮาระ

กลยุทธ์ปี 2561 จะมุ่งจับมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อขยายตลาดและผลักดันโซลูชั่น ใน 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.บริการ data center และ disaster recovery เพื่อบริหารจัดการ และลดความเสี่ยงในการจัดเก็บข้อมูลสำหรับองค์กร 2.hybrid cloud ที่ผสมผสาน public cloud และ private cloud ให้คุ้มค่า 3.workstyle renovation ช่วยในการทำงานและการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพขึ้น 4.3D VDI ให้ธุรกิจโรงงานและการผลิตออกแบบได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง 5.SAP บริการ cloud สำหรับระบบ ERP และ 6.security การบริหารจัดการด้านระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร

นอกจากนี้ บริษัทได้ขยาย data center และบริการคลาวด์เชื่อมธุรกิจใน 6 ประเทศลุ่มน้ำโขงเข้าด้วยกัน


“Data Center Bangkok 2 เปิดให้บริการแล้ว 2 เฟส ปลายปีนี้จะขึ้นเฟส 3 ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแบงก์ และไฟแนนซ์ ทั้งปีนี้จะได้เห็นเทคโนโลยี AI เริ่มต้นจาก AI reception เป็นพนักงานต้อนรับที่รองรับภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และญี่ปุ่น ไว้โต้ตอบลูกค้าได้ ด้วยการนำ machine learning”