ผู้ว่าฯอยุธยาสั่งรับมือมวลน้ำหลังเขื่อนเจ้าพระยาแจ้งระบายน้ำ 1,550 ลบ.ม./วินาที

ผู้ว่าฯ อยุธยา ลงพื้นที่เตรียมรับมือมวลน้ำ

ผู้ว่าฯ อยุธยา ลงพื้นที่เตรียมรับมือมวลน้ำ หลังเขื่อนเจ้าพระยาแจ้งจะระบายน้ำ 1,550 ลบ.ม. ต่อวินาที ยันยังไม่กระทบพื้นที่เขตเศรษฐกิจ-สถานที่ท่องเที่ยว

วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 ส.ค. 65) นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา พ.อ.ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จุดวัดน้ำที่แรก พระตำหนักสิริยาลัย จุดที่ 2 วัดไชยวัฒนาราม และจุดที่ 3 วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

อยุธยา

โดยเขื่อนเจ้าพระยาจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจากอัตรา 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 1,550 ลบ.ม.ต่อวินาที ทั้งนี้ เริ่มตั้งเเต่เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 เวลา 13.00 น. โดยเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 15, 15 และ 20 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อระดับน้ำถึงเกณฑ์กำหนดให้คงไว้ต่อเนื่อง ซึ่งการระบายน้ำในครั้งนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อยเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ประมาณ 10 ซม. ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนริมตลิ่ง

นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งดังกล่าว ประชาชนเริ่มได้รับผลกระทบบางพื้นที่แล้ว เนื่องจากน้ำมีปริมาณที่สูงขึ้น และเริ่มเอ่อล้นท่วมถนนภายในหมู่บ้านบางพื้นที่ แต่ยังสัญจรไป-มาได้ ประชาชนยังดำเนินวิถีชีวิตของบ้านริมแม่น้ำ ใต้ถุนสูง มีเรือทุกบ้าน พร้อมมีไม้กระดานวางเพื่อเดินเข้าบ้าน

โดยทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้สั่งการให้ตรวจสอบ และเฝ้าระวัง พื้นที่สำคัญแบ่งเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เขตพระราชฐาน โบราณสถาน และวัดที่สำคัญ พื้นที่เขตเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ พื้นที่ชุมชนหนาแน่น เขตเทศบาลนคร เทศบาลเมือง นอกจากนี้ ได้ตั้งวอร์รูมและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ หากประชาชนได้รับผลกระทบสามารถขอรับความช่วยเหลือ โทร.สายด่วน 1784 รับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับพื้นที่เขตเศรษฐกิจ สถานที่ท่องเที่ยว และถนนหนทางภายในจังหวัดยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวไหว้พระ รับประทานกุ้งเผาร้านอาหารริมน้ำได้ตามปกติ