สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือผนึกบริษัทนำเที่ยว 8 จังหวัดเจรจาซื้อขายธุรกิจฟื้นตลาดท่องเที่ยว คาดสิ้นปี’65 รายได้พุ่ง 5.5 หมื่นล้าน
วันที่ 2 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) ได้จัดงาน Hotels Meet Local Agents Event ณ โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ โดยนำผู้ประกอบการโรงแรมและผู้ประกอบการนำเที่ยวใน 8 จังหวัดภาคเหนือ พบปะเจรจาซื้อขายธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นการตลาดการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
นายภูณัช ธนาเหล่าพานิช นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ(ตอนบน) เปิดเผยว่า การจัดงาน Hotels Meet Local Agents Event ครั้งนี้ เป็นการพบปะเจรจาทางธุรกิจท่องเที่ยวครั้งแรกระหว่างผู้ประกอบการนำเที่ยวและผู้ประกอบการโรงแรมใน 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยวของเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการนำเที่ยวและผู้ประกอบการโรงแรม ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยว โดยมีผู้ประกอบการมากกว่า 100 รายที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และมีผู้ซื้อ (Buyer) ในภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปางและน่าน เข้าร่วมการเจรจาทางธุรกิจด้วย
นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น โดยพบว่าครึ่งปีแรก 2565 (เดือนมกราคม-มิถุนายน) มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวราว 4 ล้านคน/ครั้ง ซึ่งนักท่องเที่ยวคนไทยยังมีสัดส่วนมากที่สุด มีอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ราว 50% รายได้การท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีนี้อยู่ที่ราว 25,000 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2565 รายได้การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่จะอยู่ที่ราว 55,000 ล้านบาท กล่าวคือ เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่รายได้อยู่ที่ราว 1 แสนล้านบาท
นายณัฐพล บรรพกาญจน์ ผู้บริหารจากสายการบินเวียดเจ็ท แอร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา สายการบินเวียดเจ็ท แอร์ ได้กลับมาเปิดเส้นทางบินโฮจิมินห์-เชียงใหม่-โฮจิมินห์อีกครั้ง หลังจากหยุดการบินนับตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยพบว่าการเปิดบินวันแรกมีผู้โดยสารเต็มความจุเครื่องราว 90% ซึ่งมีทั้งผู้โดยสารชาวเวียดนาม (กรุ๊ปทัวร์) และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศเวียดนามแล้วบินมาเที่ยวต่อที่จังหวัดเชียงใหม่ นับว่าเป็นเส้นทางบินที่มีศักยภาพมาก โดยจะทำการบิน 3 ไฟลท์ต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ นับเป็นเส้นทางบินระหว่างประเทศ ที่ทำการบินตรงจากท่าอากาศยานเชียงใหม่
นอกจากนี้ สายการบินเวียดเจ็ท แอร์ กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา Route ระหว่างประเทศ ที่บินจากเชียงใหม่ไปยังประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ เมืองฟูกูโอกะ (Fukuoka) และเมืองโอซาก้า (Osaka) ซึ่งพบว่ามีดีมานด์ผู้โดยสารจากประเทศญี่ปุ่นที่สนใจเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องศึกษาตลาดเชียงใหม่ด้วยว่ามีดีมานด์ที่จะไปประเทศญี่ปุ่นมากน้อยแค่ไหน
