“ประวิตร” ลงพื้นที่ จ.กระบี่ สั่งเข้มวางแผนแก้ปัญหาน้ำระยะยาว

“ประวิตร” ลงพื้นที่ จ.กระบี่

“ประวิตร” ลงพื้นที่กระบี่ สั่งป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในระยะยาว ด้าน สนทช.เร่งผลักดัน 13 โครงการสำคัญ เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 52 ล้าน ลบ.ม.

วันที่ 5 กันยายน 2565 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจราชการ และติดตามสถานการณ์น้ำ โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่

ซึ่งมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำและการคาดการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน นำเสนอแผนการดำเนินการโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ และ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. นำเสนอแผนการดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรพื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก. (จ.กระบี่) บ้านสองแพรก หมู่ที่ 9 บ้านหว่างคลองไทย ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่

จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก. (จ.กระบี่) บ้านสองแพรก พร้อมพบปะประชาชนที่มารอต้อนรับ

พลเอกประวิตรกล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งอาจเกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก จากที่ได้เล็งเห็นผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน รัฐบาลมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง จึงมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมดำเนินการ จัดทำแผนเผชิญเหตุรับมือล่วงหน้า หากเกิดเหตุอุทกภัยขึ้น

รวมถึงการวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในระยะยาว โดยให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน และจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามแผนรับมือฤดูฝนทั้ง 13 มาตรการอย่างเคร่งครัด และดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี 2565 ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้เห็นชอบไว้

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กรมชลประทาน วางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเร่งก่อสร้างโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับพื้นที่สามารถรองรับกับปริมาณความต้องการ การใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตรในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอ และให้ ส.ป.ก. กระบี่ เร่งรัดการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อให้ประชาชนได้มีพื้นที่ทำกิน หาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างมั่นคง

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปี 2561-2564 มีการพัฒนาโครงการด้านทรัพยากรน้ำแล้วจำนวน 476 โครงการ รวมความจุ 7.46 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 82,000 ครัวเรือน โดยมีโครงการสำคัญ เช่น ก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขากันตัง-(สิเกา-ปากเมง) จ.ตรัง ระบบบำบัดน้ำเสีย เกาะพีพี จ.กระบี่ ระบบระบายน้ำพื้นที่ชุมชนทุ่งสง ระยะที่ 1 จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น

พร้อมกันนี้ยังเร่งดำเนินการในโครงการสำคัญอีก 13 โครงการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 52 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ป้องกันน้ำท่วม 25,481 ไร่ เช่น ปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาพังงา-ภูเก็ต (ระยะที่ 1-2) จ.ภูเก็ต อ่างเก็บน้ำ คลองช้าง จ.สตูล ระบบระบายน้ำหลักพื้นที่ชุมชนเมืองสตูล ระยะที่ 1 จ.สตูล เป็นต้น