ชงคลังตั้ง “ดิวตี้ฟรี” ปลุกชีพตลาดกิมหยง

ตลาดกิมหยง

กรอ.สงขลาชงกระทรวงการคลังขอตั้ง “ดิวตี้ฟรี” ย่านดาวน์ทาวน์ใจกลางเมืองหาดใหญ่ จูงใจนักช็อปไทย-เทศ หวังปลุกชีพเศรษฐกิจย่าน “ตลาดกิมหยง-ห้างสันติสุข-ห้างแผงทอง” ให้กลับมาคึกคัก รายได้สะพัด คาดใช้เวลาศึกษาข้อมูลอีก 6 เดือน พร้อมดันสงขลาพัฒนาสู่เมือง Medical and Wellness City

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา (กรอ.) ครั้งที่ 6/2565 ซึ่งมี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน

ที่ประชุมได้รายงานเศรษฐกิจ จ.สงขลา จากสำนักงานคลังจังหวัดสงขลา โดยประมาณการว่า ในปี 2565 เศรษฐกิจ จ.สงขลา จะขยายตัวร้อยละ 3.3 และขยายตัวร้อยละ 4.6 ในปี 2566 ในการปรับคาดการณ์เพิ่มขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาถึงข้อเสนอในการจัดตั้งพื้นที่โซนร้านค้าปลอดอากร (Duty Free Zone) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยหอการค้าจังหวัดสงขลา ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กับ จ.สงขลา ได้ร่วมกันจัดทำแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ นำเสนอการใช้นโยบาย Shopping Tourism

โดยเสนอให้จัดตั้งโซนร้านค้าปลอดอากรกลางเมืองเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อยกระดับและกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งจะเป็นเหตุจูงใจดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้ามาใช้จ่ายในประเทศ และจะส่งผลต่อเนื่องกับภาคอุตสาหกรรม การค้า ฯลฯ เป็นจำนวนมาก

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเสนอให้รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ออกมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังสามารถซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดอากรได้ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม

ขณะเดียวกันได้ร่วมกันพิจารณาการพัฒนาเมืองสงขลาสู่เมือง Medical and Wellness City โดยขอรับการสนับสนุนเงื่อนไขพื้นที่พิเศษในการออกใบอนุญาตพิเศษของจังหวัด (Super License) เช่น การขออนุญาตให้กิจการ wellness จ.สงขลา ได้รับอนุญาตใบเดียว (super license) และอนุญาตให้กิจการโรงแรมประกอบการในสาขา wellness

และการขอเพิ่มประเภทโรงแรมส่งเสริมสุขภาพที่รองรับมาตรฐานกิจการ wellness ไทย หรือมาตรฐานอาคารเพื่อสุขภาพ ให้เป็นโรงแรมประเภทที่ 5 เพื่อการพัฒนาเมืองสงขลาสู่เมือง Medical and Wellness City เพื่อให้ จ.สงขลา เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดเขตระเบียงเศรษฐกิจ Wellness ภาคใต้

และการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจประเทศไทย Thailand Wellness Economic Corridor เพื่อเป็นการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลาง wellness โลก โดยการขอ super license เพื่ออำนวยความสะดวกให้โรงพยาบาล โรงแรม และสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการได้คล่องตัวมากขึ้น

นายธนวัฒน์ พูนศิลป์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประชุม กรอ.ครั้งที่ 6/2565 ที่ผ่านมา มีเรื่องโครงการลงทุนสร้างโซนร้านค้าปลอดภาษี Duty Free Zone ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือมาก่อนแล้วจำนวนหลายครั้งระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชน

โดยเฉพาะหอการค้าจังหวัดสงขลา กับ ศอ.บต. และทาง ศอ.บต.ได้รับหลักการดำเนินการสนับสนุนเต็มที่ไปแล้ว และในที่สุดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการ เช่น เทศบาลนครหาดใหญ่ ศุลกากร สรรพสามิต ฯลฯ ภาคเอกชน เช่น หอการค้าจังหวัดสงขลา ฯลฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป หากมีความเป็นไปได้ให้ดำเนินการทันที หากเป็นไปไม่ได้ก็ให้ยกเลิก และเมื่อเป็นไปได้ก็จะเชิญภาคเอกชนเข้ามาลงทุนดำเนินการทันที

โดยมีเป้าหมายคือ ย่านดาวน์ทาวน์ กลางใจเมืองเทศบาลนครหาดใหญ่ ในพื้นที่ย่านถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 และถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 ซึ่งแต่อดีตเดิมย่านนี้มีสินค้าจากต่างประเทศที่ขึ้นชื่อระดับประเทศ นำมาวางจำหน่ายค้าขายทั้งคนภายในประเทศและต่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

“มีตั้งแต่ห้างสันติสุข ห้างแผงทอง ห้างกิมหยง ฯลฯ ซึ่งจะมาดำเนินการให้เป็น Duty Free Zone โดยจะหารือกับเจ้าของพื้นที่ว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็จะดำเนินการได้ทันที”

นายธนวัฒน์กล่าวอีกว่า อีกโครงการขนาดใหญ่คือ Madical and Wellness City สำหรับโครงการนี้หาดใหญ่มีความพร้อมทั้งหมดทั้งสถานที่และบุคลากร คือโรงพยาบาลทั้งของภาครัฐและของภาคเอกชน ต่างเป็นขนาดใหญ่มาตรฐานทันสมัยระดับประเทศ พร้อมทั้งสถานเสริมความงาม สปา นวดแผนไทย สมุนไพร

ซึ่งทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างรับหลักการและตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมีสำนักงานสาธารณสุข ภาครัฐ เอกชนร่วมกันดำเนินการ ซึ่งก่อนหน้านั้นสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องได้หารือกันมาหลายเวทีแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมทั้งหมด ทั้งนี้จะมีการประชุมกันอีก 2-3 ครั้ง จะได้บทสรุป และหากมีความเป็นไปได้จะดำเนินการทันที เพราะสถานที่และบุคลากรมีความพร้อมทั้งหมดแล้ว

นายธนวัฒน์กล่าวอีกว่า Madical ane Wellness City ทางด้านการตลาดมีค่าตอบแทนสูง และต่างประเทศมีความนิยมทั้งประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เมื่อมาเสริมความงาม บำบัดรักษา ฯลฯ จะทำให้มีการพักอาศัยอยู่ใน จ.สงขลา ในระยะยาวขึ้น การท่องเที่ยวได้ระยะยาวขึ้น จะต่อยอดถึงการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า แทบจะทุกจุด จะมีรายได้จดไปถึงรากหญ้า เม็ดเงินเข้าถึงทุกระดับ

“ภาพเศรษฐกิจทั้ง Duty Free Zone และ Madical ane Wellness มีมูลค่ารวมกันกว่าหลักแสนล้านบาท หากทำได้จะสามารถเปลี่ยน จ.สงขลา ได้” นายธนวัฒน์กล่าว